นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร (TK) ตั้งเป้าปี 63 ขยายฐานสัดส่วนลูกหนี้เช่าซื้อ ที่มาจากภายในประเทศและต่างประเทศ อยู่ที่ 50:50 จากปัจจุบันมีลูกหนี้เช่าซื้อจากต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนเพียง 2% โดยมั่นใจว่า จะสามารถขยายตลาดในต่างประเทศได้อีกมาก ด้วยความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน พร้อมต่อการลงทุนในต่างประเทศได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าไปลงทุนเปิดสาขาเอง, การเข้าซื้อกิจการ หรือ การมองหาพาร์ทเนอร์ในลักษณะของ Joint Venture รวมทั้งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดต่างประเทศ อย่าง ลาว และกัมพูชา
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศที่รายได้ประชากรเฉลี่ยยังไม่สูงมากนัก และมีการขยายตัวของจำนวนประชากรสูง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นกลุ่มที่มีความต้องการใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะ
ทั้งนี้ในปี 60 บริษัทฯ มีแผนจะขยายสาขาในกัมพูชา เพิ่มอีก 3 สาขาจากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 3 สาขา และเตรียมขยายสาขาเพิ่มในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในขณะเดียวกัน ยังได้มองโอกาสการลงทุนในอีกหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยคาดว่าพอร์ตสินเชื่อจากต่างประเทศในปีนี้มีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 5%
"นับจากนี้เป็นต้นไป TK ได้กำหนดแผนการเติบโตให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ด้วยการรุกขยายฐานธุรกิจในต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตของตลาดภายในประเทศ"นายประพล กล่าว
นายประพล คาดว่าในปี 63 ยอดลูกค้าผู้เช่าซื้อและลูกค้าลูกหนี้เงินให้กู้ยืมใตตลาดต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 1.4 หมื่นล้านบาทจากไตรมาส 3/59 ที่มีอยู่ 7.6 พันล้านบาท เนื่องจากการขยายตลาดในต่างประเทศที่มีการเติบโตสูง โดยขณะนี้บริษัทได้ศึกษาตลาดเพื่อนบ้านที่ประชากรมากและมีความต้องการใช้รถจักรยานยนต์สูง ได้แก่อินโดนีเซีย ที่มีความต้องการรถจักรยานยนต์ถึง 6-7 ล้านคัน/ปี และเวียดนามมีความต้องการ 3 ล้านคัน/ปี ซึ่งทั้งสองประเทศใช้สินเชื่อเช่าซื้อประมาณ 80% รวมทั้งสนใจตลาดเมียนมาด้วย
ส่วนในประเทศไทย คาดว่ายอดขายรถจักรยานยนต์ในปีนี้จะมี 8 แสนคันจากปี 59 อยู่ที่ 7.68 แสนคัน จากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทั้งส่งออกที่ดีขึ้น ราคาสินค้าเกษตรก็ดีขึ้น รายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้น และปีนี้ยอดขายน่าจะกลับมาฟื้นตัวหลังจากโครงการรถคันแรกจบไป 5 ปีมาแล้ว ดังนั้นคาดว่าพอร์ตสินเชื่อของบริษัทในปีนี้เติบโตอย่างน้อย 5% และอาจจะเพิ่มเป็น 6-7% จากการออกแคมเปญ"ฉลอง 45 ปี บิน กิน เที่ยวกับ TK" สำหรับลูกค้าและร้านค้า ที่ทำสัญญาเช่าซื้อจักรยานยนต์กับ TK ตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม 2560 รับสิทธิ์ลุ้นเลือก บิน กิน เที่ยว ญี่ปุ่น เกาหลี หรือไต้หวันฟรี จำนวน 450 ที่นั่ง รวมมูลค่ารางวัลกว่า 17,000,000 บาท ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนปี 59 ยอดสินเชื่อของบริษัทเติบโต 8% มากกว่าตลาดรวมโต 4%
นอกจากนี้ โครงการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐน่าจะมีส่วนช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจไทยเติบโตเพิ่มอีก และสนับสนุนเศรษฐกิจยาวไปอีก 5 ปี ก็ช่วยให้ธุรกิจสินเชื่อเติบโตในภาพรวมด้วย
"ปีนี้โมเมนตัมยังเติบโตดีอยู่ เราเห็นการฟื้นตัวมา 5 ไตรมาสแล้ว ปีนี้เราคาดว่าอย่างน้อยโต 5% จากเศรษฐกิจดีขึ้น ก็ปรับเพิ่มขึ้น และมีแคมเปญนี้อาจจะโต 6-7% พอร์ตสินเชื่อปีนี้คงยังไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท" นายประพลกล่าว
ในปีนี้บริษัทใช้งบลงทุนไม่มาก ประมาณ 20 กว่าล้านบาท กับการลงทุนสาขาใหม่ ในประเทศ 4 สาขา และในกัมพูชา 3 สาขาจากปัจจุบันมีสาขาในประเทศ 88 สาขาทั่วไทย และในกัมพูชา 3 สาขา ในสปป.ลาว 1 สาขา ทั้งนี้จะไม่เน้นการขยายสาขามาก แต่เน้นการใช้เทคโนโลยีมากกว่าเพราะเข้าสู่ยุคดิจิทัล
นายประพล กล่าวว่า ในปี 60 คาดว่ายอดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จะต่ำกว่า 4.9% ในไตรมาส 3/59 เล็กน้อย ทั้งนี้ในปีนี้หนี้ครัวเรือนยังมีส่วนถ่วงตลาดอยู่บ้าง โดยวางกรอบไว้ไม่ให้เกิน 5%
ในปีนี้ บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ไม่เกิน 2 พันล้านบาท อายุ 3 ปี จากปีก่อนออกหุ้นกู้ 2 พันล้านบาท อายุ 3 ปีเช่นกัน เพื่อนำไปทดแทนหุ้นกู้เดิม และขยายธุรกิจ ทั้งนี้ หุ้นกู้ระยะยาว 3 ปี มีอายุมากกว่าหนี้ที่ปล่อยสินเชื่อ 2 ปี แม้ว่าปีนี้มีแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในไทยจะปรับตัวสูงขึ้น ราว 0.50% แต่บริษัทยังมีสภาพคล่องดีอยู่ โดยหนี้รวม 4 พันล้านบาทมีต้นทุนเฉลี่ย 3% และเป็นหนี้ที่มีดอกเบี้ยคงที่ 60-70% โดยปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.9 เท่า นอกจากนี้ยังมีวงเงินกู้อีกราว 3-4 พันล้านบาท