หุ้น TISCO ราคาพุ่งขึ้น 4.30% มาอยู่ที่ 66.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 434.35 ล้านบาท เมื่อเวลา 12.06 น. โดยเปิดตลาดที่ 64 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 67 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 64 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ให้ราคาพื้นฐาน 75 บาท อิงกับ Gordon Growth Model ซึ่งเทียบเท่ากับ P/BV ปี 60 ที่ 1.7 เท่า โดยประมาณการว่ากำไรสุทธิปี 60 ของ TISCO จะขยายตัวสูงถึง 22% ต่อเนื่องจากที่เติบโต 18% ในปี 59 และการซื้อพอร์ตลูกค้ารายย่อยจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์ด (ไทย) (SCBT) ซึ่งคาดว่าจะทำให้กำไรสุทธิปี 61 จะขยายตัวได้สูงมากต่อเนื่องอีก ธนาคารมี ROE สูงที่ 17-18% และให้ Dividend Yield ในเกณฑ์ดีที่ประมาณ 4% ต่อปี
ทั้งนี้ คาดสินเชื่อจะฟื้นตัวดีขึ้นในปี 60 หลังจากหดตัวมาต่อเนื่อง 3 ปี โดยในส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อาจยังลดลงในบางช่วงของปี 60 แต่ถึงสิ้นปีแล้วน่าจะขยับขึ้นได้เล็กน้อย ส่วนสินเชื่อเพื่อการบริโภคและสินเชื่อเอสเอ็มอีน่าจะเติบโตดีขึ้นในปีนี้
ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว และจะตั้งสำรองฯน้อยลง เพราะมี Coverage Ratio ที่สูงมากเกือบ 140% ในสิ้นปี 59 หลังจากจัดชั้นหนี้บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) ออกจาก NPL เป็น Special Mention Loans
ดีบีเอสฯ มองว่า TISCO จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นทุกด้านในปี 60 ทั้งในด้านรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่จะดีขึ้นตามการเติบโตของสินเชื่อ และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่เพิ่มขึ้น และด้าน Non-NII ที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดทุน การตั้งสำรองค่าเผื่อฯน้อยลง รวมทั้งการเข้าซื้อธุรกิจสินเชื่อรายย่อยของ SCBT ก็ช่วยหนุนการเติบโตแบบ Inorganic Growth ด้วย ซึ่งคาดว่าดีลจะแล้วเสร็จในครึ่งหลังของปี 60 และทำให้สินเชื่อ TISCO เพิ่มขึ้นราว 15%