นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) คาดว่า จะเดินหน้าโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายในเมียนมาได้หลังจากที่รัฐบาลเมียนมาจะอนุญาตให้เริ่มดำเนินการได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ โดยบริษัทเตรีจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมทวายเฟสแรกพื้นที่ 18,000 ไร่ คาดว่าใช้เวลาก่อสร้าง กว่า 2 ปี จะเป็นลักษณะทยอยทำและขาย และโรงไฟฟ้าจากก๊าซ ขนาดกำลังการผลิต 450 เมกะวัตต์ รวมทั้งที่พักอาศัย คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญ โดยจะเป็นเงินกู้ 70% ของวงเงินลงทุน และจะเปิดขายนิคมฯได้ หลังจากที่บริษัทได้ก่อสร้างเฟสเริ่มต้น 300 ไร่ก่อนหน้า
หลังจากนั้นบริษัทจะดำเนินการเฟสต่อไปที่มีพื้นที่ 80,000 ไร่ ซึ่งทั้งหมดได้ผ่านขั้นตอนการจัดทำรายงานด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ทั้งนี้ ระยะเวลาเช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมทวาย 50 ปี และต่อได้อีก 25 ปี รวมทั้งหมด 75 ปี
ขณะเดียวกัน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคามจะหารือกับทางรัฐบาลเมียนมาเกี่ยวกับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย โดยไทยจะให้เงินกู้แก่รัฐบาลเมียนมา ก่อสร้างถนนจากชายแดนไทยไปทวาย เป็นถนน 2 เลน วงเงิน 4,500 ล้าบาท อนึ่ง โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ชะลอการดำเนินการหลังรัฐบาลของนางอองซานซูจีเข้ามาบริหาร
นายเปรมชัย กล่าว ในปี 60 คาดว่าบริษัทมีโอกาสได้งานใหม่มากขึ้น คาดว่าจะมีจำนวน 1 แสนล้านบาทขึ้นไป จากปีก่อนมีงานใหม่เข้ามา 6 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 2 แสนล้านบาทซึ่งรับรู้ได้ 4 ปี โดยมีงานในประเทศและต่างประเทศซึ่งโครงการก่อสร้างทางรถไฟและท่าเรือ น้ำลึกในสาธารณรัฐโมซัมบิก มากกว่า 1 แสนล้านบาท โดยปีนี้งานโครงการภาครัฐเข้ามามาก ได้แก่ รถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง, รถไฟทางคู่เส้นใหม่ ช่วงเด่นชัย-เชียงของ โรงไฟฟ้าเทพา และ โรงไฟฟ้ากระบี่ซึ่งบริษัทได้งานแล้ว แต่รอรัฐบาลอนุมัติโครงการ
นายเปรมชัย คาดว่า ทั้งปี 59 จะไม่ขาดทุน จากอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ 4-5%จากก่อนหน้างานมีการแข่งขันราคากันมาก และรายได้ 4.5 หมื่นล้านบาท แต่ในปี 60 คาดว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้านบาทจาก Backlog ที่มีอยู่ และยังมีโอกาสได้งานใหม่เข้ามาเพิ่ม และในปีนี้คาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นมา 10%ให้ได้
อนึ่งในงวด 9 เดือนปี 59 ITD ขาดทุน 299.08 ล้านบาท