นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในกลุ่มบมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHBANK) กล่าวว่า ธนาคารวางเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อปีนี้อยู่ที่ 6-10% โดยเป็นการเติบโตจากสินเชื่อองค์กร (Corporate) ราว 5-6%, สินเชื่อรายย่อยราว 10-15%, อีกทั้งยังมีการเติบโตจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อเอสเอ็มอี อีกด้วย
ขณะที่จะควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่เกิน 1.80% จากปีก่อนอยู่ที่ 1.76% และคาดว่าอัตราค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) จะสูงกว่า 120% จากปีก่อน 119.6%
ทั้งนี้ กลยุทธ์การขยายสินเชื่อ ฐานเงินฝาก และการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม ธนาคารจะกำหนดเป้าหมายลูกค้าที่ชัดเจน หรือการทำ Customer Segmentation เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าแต่ละกลุ่ม การลดต้นทุนทางการเงินด้วยการขยายฐานเงินฝากต้นทุนต่ำ การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ โดยจะรักษาระดับค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวม (Cost-to-Income) ไม่เกิน 45% จากปีก่อนอยู่ที่ราว 37%
โดยการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลต่อต้นทุนในระยะยาว ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้ของพนักงาน โดยเฉพาะพนักงานสาขาจะมีการปรับบทบาทหน้าที่ให้เป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน ตลอดจนเป็นนักวางแผนการเงินให้ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์จากการลงทุนและการออมสูงสุด
"ที่ผ่านมาเรามุ่งเน้นสินเชื่อบ้านเป็นหลัก และได้มีการขยายสาขา เพิ่มช่องทางการให้บริการทั้งผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ, การออกบัตรเดบิตร่วมกับ UnionPay ที่สามารถเบิกถอนเงินสดหรือซื้อสินค้าจากร้านค้าต่างๆ ได้ทั่วโลก รวมถึงบริการ LH Bank PromtPay เป็นบริการรูปแบบใหม่ เพื่อลดการพกพาเงินสด โดยการผูกบัญชีเงินฝากกับธนาคาร ขณะที่ปีนี้เราต้องการเสนอผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจกับลูกค้ามากขึ้น และมุ่งพัฒนาแพทฟอร์ม รวมถึงการ Organization Transformation หรือปรับตัวให้ทันต่อเทคโนโลยี"นางศศิธร กล่าว
สำหรับการขยายสาขา ปัจจุบันธนาคารมีสาขารวมทั้งสิ้น 133 สาขา แบ่งเป็นสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 47 สาขา และสาขาในภูมิภาค 86 สาขา โดยกลยุทธ์สาขาปีนี้ จะมุ้งเน้นด้านการให้บริการที่มีคุณภาพ เป็นที่ปรึกษาด้านการเงินและการสร้างความไว้ใจจากลูกค้า และการปรับปรุงรูปแบบการให้บริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น
นางศศิธร กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าของการเข้าร่วมทุน ของ CTBC BANK จากไต้หวัน ที่จะเข้ามาถือหุ้นสัดส่วน 35.61% นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไต้หวัน (BANK OF TAIWAN) ส่งผลให้เกิดความล่าช้ากว่าแผน แต่คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในเดือนมี.ค.นี้ และน่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนก.ย.นี้ อย่างไรก็ตามหากล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ทางธนาคารก็มีสิทธิในการยกเลิกการร่วมทุนดังกล่าว โดยปัจจุบันก็ได้เตรียมการ หรือมีแผนสำรองในการหาเงินทุนเพื่อสร้างการเติบโตของกลุ่มธนาคารในอนาคต แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้
ด้านนายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Fund) กล่าวว่า ในปีนี้ LH Fund มีแผนออกกองทุนใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในไทย และในต่างประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกในการกระจายการลงทุนและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี โดยวางเป้าหมายที่จะเพิ่มขนาดกองทุนภายใต้การบริหารจัดการเติบโตราว 15-20% จาก 64,200 ล้านบาทในปีก่อน
โดยปีนี้ตั้งเป้าออกกองทุน 15-18 กองทุน มูลค่ากองทุนราว 15,000 ล้านบาท โดยจะเน้นการลงทุนในตราสารทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นหลัก และจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีเครดิตเรทติ้ง
นางสาวเยาวลักษณ์ อร่ามทวีทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Securities) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 60 ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ดีจากปีก่อน ที่ขยายตัวราว 3.2% โดยมีปัจจัยหนุนหลัก ๆ คือ การฟื้นตัวของการส่งออก การลงทุนของเอกชน การลงทุนโครงการพื้นฐานของภาครัฐ ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนภาคธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม ที่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ
นอกจากนี้ LH Securities ยังตั้งเป้ามีมาร์เก็ตแชร์ในปี 60 แตะ 1% จากปี 59 อยู่ที่ 0.43% โดยช่วงต้นปีนี้มาร์เก็ตแชร์ได้ปรับตัวขึ้นมา 0.44% อีกทั้งยังมีแผนที่จะเพิ่มบัญชีลูกค้าอีกกว่า 1,000 บัญชี จากสิ้นปี 59 มีจำนวนบัญชีทั้งสิ้น 7,703 บัญชี โดยมีบัญชีที่เคลื่อนไหวสม่ำเสมอ คิดเป็น 40% ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าที่ซื้อขายผ่านออนไลน์ 70% และออฟไลน์ 30%