นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและการบัญชี บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ในปี 59 ที่ผ่านมาบริษัทได้สว็อปอัตราแลกเปลี่ยนหนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมาเป็นเงินสวิสฟรังก์ที่มีค่าเงินอ่อนตัว และดอกเบี้ยเงินสกุลสวิสฟรังก์ต่ำกว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็แข็งค่าขึ้น และบริษัทยังได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) หนี้เงินสกุลสวิสฟรังก์ยาวถึง 12 ปี ด้วย ทำให้ในปี 59 บริษัทสามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ 600 ล้านบาท และคาดว่าจะลดภาระดอกเบี้ยได้ต่อเนื่องเฉลี่ย 5 ปีโดยในช่วง 1-2 ปีแรกจะลดภาระได้ถึง 600 ล้านบาท และปีถัดๆมาก็จะน้อยลงตามสัดส่วนหนี้ที่ปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ดี การบินไทยมีค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐมากกว่ารายได้ โดยมีรายได้จากสกุลเงินดอลลาร์สัดส่วน 6%ขณะที่ค่าใช้จ่ายน้ำมัน มีสัดส่วนเกือบ 50% ขณะที่มีรายได้จากยูโร มีสัดส่วน 9% เงินเยน 9% ทำให้มีความยากในการบริหารจัดการ เพราะการบินไทยเผชิญรายได้ที่น้อยลงจากค่าเงินยูโร และเยนอ่อนตัว เมือเปลี่ยนเป็นเงินบาทจะต่ำลง ส่วนรายได้ที่จ่ายเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเมื่อเปลี่ยนเป็นเงินบาทจะมีจำนวนสูงขึ้น
นอกจากนี้ ค่าเช่าเครื่องบินของบริษัทก็จ่ายเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในปีนี้รับมอบเครื่องบิน 7 ลำ โดยซื้อ 2 ลำ และเช่า 5 ลำ ดังนั้น บริษัทต้องเตรียมเงินกู้ทีไม่ใช่เงินสกุลดอลลาร์ แต่เปลี่ยนมาใช้เป็นเงินเยนแทนที่ดอกเบี้ยติดลบอยู่