นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 60 จะทรงตัว หรือปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากปี 59 ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งจากการลงทุนในสหรัฐฯ ตามนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะมีการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค ส่งผลให้มีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ และไม้สูงขึ้น จึงมีความต้องการการขนส่งสินค้าทางเรือมากขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท โดยคาดว่าค่าระวางเรือจะทรงตัวหรือปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากปีก่อนที่ 6,476 เหรียญสหรัฐ/วัน/ลำ พร้อมคาดว่าดัชนีค่าระวางเรือ BDI ในปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่ 673 จุด ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้เชื่อว่าจะได้รับผลดีจากการนำเข้าถ่านหินของจีนที่จะปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากระหว่างปี จากการที่คาดการณ์ว่าจีนจะควบคุมจำนวนวันทำงานของเหมืองถ่านหินลงมาเหลือไม่เกิน 276 วัน จากเดิมที่ 330 วัน
"ภาพรวมในปี 60 คงจะใกล้เคียงกับปี 59 ที่ผ่านมา ด้วยการเริ่มไตรมาสแรกที่ไม่ดีนัก ตามมาด้วยการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการปลดระวางเรืออย่างรวดเร็วและในปริมาณมากเหมือนในครึ่งปีแรกของปี 59 หรือไม่ หากไม่มีการปลดระวางเรือในปริมาณมาก ตลาดอาจตกต่ำไม่ใช่แค่ในไตรมาสแรก แต่จะเป็นตลอดทั้งปี 60 หากการขยายตัวภาคอุปสงค์อย่างยั่งยืนบวกกับการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยของภาคอุปทานจะส่งผลให้อัตราค่าระวางเรือปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน" นายคาลิด กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมรับมอบเรือลำใหม่ขนาดอัลตราแมกซ์ (64,000 เดทเวทตัน) จำนวน 2 ลำ เข้ามาทดแทนเรือลำเก่าขนาดแฮนดี้ไซส์ที่ปลดระวาง 1 ลำ ซึ่งจะเริ่มรับเรือตั้งแต่เดือนเม.ย. 60 และเดือนม.ค. 61 ทำให้บริษัทมีกองเรือทั้งหมด 37 ลำ และด้วยอายุเรือที่ลดลงจะส่งผลให้สามารถลดค่าใช้จ่ายต้นทุน อาทิ ช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันได้มากขึ้น เป็นต้น ประกอบกับการบังคับใช้ระเบียบการเดินเรือใหม่ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายทยอยปลดประจำการเรือลำเก่า ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ของตลาด ส่งผลบวกต่อการยืดอายุสัญญาจ้างในอนาคตให้มีระยะเวลานานขึ้น