บลจ.ไทยพาณิชย์ ตั้งเป้าปี 60 มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) จะเติบโต 8% หรือมีเม็ดเงินเพิ่มขึ้นอีก 1 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่มีมูลค่ารวมประมาณ 1,307,408 ล้านบาท ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 20.25% ขณะที่คาดว่าตลาดรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมในปีนี้จะเติบโตราว 7-10% และคาดว่าจะขยายตัวยิ่งขึ้นจากกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ที่จะเสนอขายในปีนี้
นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ด้วยกลยุทธ์สำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การขยายฐานลูกค้าใหม่ อย่างน้อย 5 หมื่นรายขึ้นไป โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีสินทรัพย์ 2-10 ล้านบาท หรือ กลุ่ม SCB Prime ที่เป็นลูกค้าธนาคารทั้งลูกค้าเงินฝาก ลูกค้าประกัน เป็นต้น
ขณะเดียวกัน บริษัทจะดูแลลูกค้าเดิมที่มีอยู่กว่า 7 แสนบัญชี ซึ่งเป็นบัญที่มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ 70% โดยจะมีพนักงานดูแลและติดต่อเพื่อช่วยปรับการลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์เวลานั้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาบุคคลากรทั้งฝ่ายตัดการลงทุนและทีมขายให้ได้รับความรู้ในผลิตภัณฑ์ และวิธีเสนอขายอย่างถูกต้องรวมทั้งเทคนิคการปรับพอร์ตของลูกค้า รวมทั้งเตรียมพร้อมก้าวสู่ดิจิทัล หาช่องทางใหม่ และ แอพพลิเคชั่นใหม่เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงและสะดวกรวดเร็วในการซื้อ ขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน
"แผนงานในปีนี้นอกจากจะมุ่งขยายฐานไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Digital Age ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่แล้ว ยังต้องการเพิ่มจำนวนลูกค้าที่ Active มากขึ้นด้วยเพราะพอร์ตการลงทุนที่ไม่เคลื่อนไหวอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาด รวมทั้งยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้ออกกองทุนกลุ่ม Income ไปแล้วคือ กองทุน SCBGIN และ กองทุน SCBMPLUS"นายสมิทธ์ กล่าว
สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการให้ลูกค้าได้รับความสะดวกรวดเร็ว ทั้งการซื้อ ขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน อาทิ ​Mobile Banking ผ่าน SCB Easy ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ได้วางรากฐานการพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อสนับสนุนลูกค้าด้านการลงทุนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ยังคงเน้นการให้ความรู้ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างสม่ำเสมอโดยการจัดสัมมนา เพื่อให้ข้อมูลที่ทันกับสถานการณ์การลงทุนที่ผันผวนรวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนที่มีนโยบายซับซ้อนเพื่อช่วยลูกค้าในการตัดสินใจและสามารถนำข้อมูลที่ได้รับไปต่อยอดการลงทุนของตนเองได้ด้วยเช่นกัน
นายสมิทธ์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนออกกองทุนใหม่ไม่เกิน 10 กองทุน ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 60 จนถึงปัจจุบันออกกองทุนใหม่ไปแล้ว 3 กองทุน ทำให้ขณะนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ มีกองทุนหลากหลายมากขึ้น