นายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.นามยง เทอร์มินัล (NYT) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 60 เติบโต 5% ซึ่งเป็นการเติบเติบที่รับอานิสงส์ของการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ฟื้นตัวส่งผลให้มีการใช้บริการท่าเรือของบริษัทในการนำเข้า-ส่งออกมากขึ้น
อีกทั้งค่ายรถยนต์รายใหญ่ ได้แก่ โตโยต้า หันกลับมาใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์ หลังจากการปิดโรงงานในออสเตรเลียไป และฟอร์ดเป็นอีกหนึ่งค่ายที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต ประกอบการ โครงการอีโคคาร์เฟส 2 จะทำให้มีการใช้บริการขนส่งรถยนต์อีกเป็นจำนวนมาก
นายเทพรักษ์ กล่าวว่า รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทเกี่ยวเนื่องกับบริการขนส่งรถยต์ทางเรือ ซึ่งหากแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์มีการขยายตัวก็จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทขยายตัวตามในทิศทางเดียวกัน เพราะลูกค้าค่ายรถยนต์ต่างใช้บริการขนส่งรถยนต์มากขึ้น โดยบริษัทคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 จะดีกว่าไตรมาส 4/59 และดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะผู้ประกอบการต่างๆสั่งซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น หลังจากแนวโน้มยอดขายรถยนต์ปรับตัวดีขึ้น เพราะความต้องการฟื้นตัวรับผลดีจากราคาน้ำมันที่ลดลง ส่งผลให้มีการใช้บริการขนส่งและการฝากเก็บรถยนต์ในพื้นที่ของบริษัทเพิ่มขึ้น
ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1 พันล้านบาท แบ่งเป็นงบที่ใช้เข้าซื้อหุ้นท่าเรือ C0 เพิ่มอีก 29% จากปัจจุบันถือหุ้นราว 20% ซึ่งจะใช้เงินอีกจำนวน 800 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ส่วนแบ่งตลาด (Market Share) ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 80% ในปัจจุบัน และยังคงเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย ส่วนเงินลงทุนอีก 200 ล้านบาทจะใช้สำหรับการขยายพื้นที่ฝากเก็บรถยนต์และพื้นที่จัดเก็บสินค้าเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต
นายเทพรักษ์ เปิดเผยอีกว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนตั้งท่าเรือแห่งใหม่ในประเทศ เพื่อใช้สำหรับการจัดส่งสินค้าอื่นๆ เพื่อเป็นการกระจายประเภทการให้บริการ ซึ่งบริษัทได้ศึกษาหาแนวทางการตั้งท่าเรือแห่งใหม่เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต และการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในแผนการศึกษาดังกล่าวภายในปีนี้