บล.โกลเบล็ก ตั้งเป้าปี 60 ดันมาร์เก็ตแชร์ขึ้นสู่ 3% จาก 2.38% ณ ธ.ค.59

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 17, 2017 10:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า บริษัทเป้าหมายผลักดันส่วนแบ่งการตลาด (market share) ในปีนี้ไปที่ระดับ 3% จาก ณ ธ.ค. 59 บริษัทมี market share อยู่ที่ 2.38% เป็นอันดับที่ 20 และในปีนี้จะก้าวไปสู่ระดับ Top 15 จาก 36 โบรกเกอร์

นอกจากนี้ บริษัทฯมุ่งเน้นการขยายการตลาดส่วนกลางมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้ายึดมั่นในการให้บริการของตัวบริษัท ภายใต้การควบคุมต้นทุน และจำนวนทรัพยากรบุคคล เพื่อยังรักษาความสัมพันธ์ที่เหมาะสมของบริษัทระหว่าง / ตัวกลาง (เจ้าหน้าที่การตลาด) / ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าทั้งฐานส่วนกลางบริษัท และลูกค้าของส่วนเจ้าหน้าที่การตลาดได้รับบริการอย่างครบครัน เหมาะสมกับภาวะการแข่งขันของธุรกิจหลักทรัพย์ โดยเฉพาะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มช่องทางที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเข้าถึงบริษัทได้มากขึ้น และการอบรมการให้บริการของผู้ติดต่อลูกค้าเป็นสำคัญ

รวมทั้งมุ่งเน้นการหารายได้เพิ่มเติม อาทิ รายได้จากค่าที่ปรึกษาและค่าธรรมเนียม ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน IB และฝ่ายค้าตราสารทุน (Bond) การเพิ่มธุรกรรมการลงทุนใน DW, Options และการรักษาความเสี่ยงด้านการลงทุนของฝ่ายค้าตราสารทุนและอนุพันธ์ (Proprietary Trading) การหาลูกค้ากลุ่มเครดิตบาลานซ์ เพื่อสร้างรายได้ส่วนดอกเบี้ย Margin Loan และธุรกรรม block Trade ของฝ่ายตราสารอนุพันธ์ โดยเริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 59

ส่วนผลประกอบการในปี 59 นายธราภุช คูหาเปรมกิจ กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) เปิดเผยว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม รวม 56,594.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 33,914.04 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 40.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.01 ล้านบาท หรือคิดเป็น 247.10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11.74 ล้านบาท

สาเหตุที่บริษัทฯมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้จากการขายทองคำแท่ง 55,960.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,668.76 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 68.09% ขณะที่ต้นทุนขายทองคำแท่ง 55,921.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,652.97 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 68.09% ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขั้นต้นจากการขายทองคำแท่ง 39.20 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯมีรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผล 41.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 89.84% ส่งผลให้บริษัทฯได้รับเงินปันผลจากบริษัทย่อย จำนวน 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 20 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีรายได้จากค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจากบริษัทย่อย 53.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.39% และมีผลกำไรจากการเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์ของบริษัทย่อย 59.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 45.03%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ