FSMART ปีนี้เดินหน้าขยายจำนวนตู้เติมเงินพร้อมเพิ่มบริการ-เผย Be Wallet ผลตอบรับดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 17, 2017 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) เปิดเผยว่า การดำเนินงานในปี 60 บริษัทตั้งเป้าขยายตู้เติมเงินให้ได้ 120,000 ตู้ ซึ่งเป็นแผนการดำเนินงานระยะยาวที่ต้องการจะเพิ่มจำนวนตู้เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นด้วยการทำงานของตัวแทนบริการในแต่ละจังหวัด ประกอบกับการที่บริษัทขยายตู้เติมเงินบุญเติมไปตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เซเว่น – อีเลฟเว่น ที่มีแผนเพิ่ม 1,000 สาขา , แฟมิลี่มาร์ท, ลอว์สัน , เทสโก้โลตัส, เทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพรส, บิ๊กซี , ท็อปส์ , โฮมโปร, ซุปเปอร์เซฟ ตลอดจนอาคารและโครงการต่างๆ ที่สนใจติดตั้งตู้เติมเงิน ที่จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและยอดเติมเงินให้กับบริษัทให้เติบโตตามเป้าหมายที่ 30,000 ล้านบาทที่ตั้งไว้

นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ FSMART กล่าวว่า นอกจากบริษัทจะมุ่งมั่นในการขยายจำนวนตู้ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความทันสมัยตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องความรวดเร็ว และแม่นยำในการใช้บริการตู้เติมเงินบุญเติม รวมไปถึงสินค้าอื่นๆของบริษัท

โดยการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ได้ต่อยอดมาถึงการพัฒนา mobile payment แอพพลิเคชั่นภายใต้ชื่อ “Be Wallet" กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนสมาร์ทโฟนที่ได้เปิดตัวในงานมหกรรมมือถือ Thailand Mobile Expo 2017 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ร่วมงานในการดาวน์โหลด “Be Wallet" เป็นอย่างดี ภายในแอพพลิเคชั่นจะมีบริการเติมเงินเข้ามือถือ จ่ายบิล โอนเงิน

รวมไปถึงซื้อเครื่องดื่มจากตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติและเติมเงิน (Vending Machine &Top-Up) ผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ด ซึ่งบริษัทเริ่มวางสินค้าในหลายพื้นที่กว่า 700 เครื่อง และในอนาคตจะเพิ่มสินค้าและบริการภายในตู้ให้มากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มช่องทางการหารายได้ที่หลากหลายตาม Digital Retail Channel ที่เป็นโมเดลธุรกิจที่บริษัทวางแผนไว้

สำหรับผลประกอบการประจำปี 59 บริษัทมีรายได้รวม 2,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 743 ล้านบาท หรือ 44% จากปี 58 ที่มีรายได้ 1,684 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148 ล้านบาท หรือ 55% จากปี 58 ที่มีกำไรสุทธิ 272 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรมาจากการที่บริษัทสามารถขยายจำนวนตู้เติมเงินบุญเติมได้ 92,082 ตู้ ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 90,000 ตู้ ส่งผลต่อยอดการเติมเงินโดยรวมที่ 23,383 ล้านบาท มากกว่าปี 2558 ที่มียอดเติม 15,386 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 52%

ขณะที่ไตรมาส 4/59 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 737 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 248 ล้านบาท หรือ 51% และกำไรสุทธิ 133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56 ล้านบาท หรือ 73% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ซึ่งมาจากจำนวนผู้ใช้บริการผ่านตู้เติมเงินบุญเติมกว่า 23 ล้านเลขหมาย และยอดทำรายการมากกว่า 2 ล้านรายการต่อวัน จากบริการต่างๆ ภายในตู้เติมเงินกว่า 59 รายการ โดยเฉพาะบริการโอนเงินที่บุญเติมเป็นตัวแทนของธนาคารกรุงไทย และกสิกรไทย โดยมียอดการโอนในขณะนี้กว่า 9,000 รายการต่อวัน จากเดิมมีจำนวนกว่า 2,300 รายการต่อวันในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ