นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า ปตท.มีโอกาสจะปรับเพิ่มงบลงทุนในช่วง 5 ปี (ปี 60-64) เป็นระดับ 5.37 แสนล้านบาท จากระดับ 3.39 แสนล้านบาทในปัจจุบัน หลังคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติงบสำรองลงทุน (Provision) จำนวน 1.99 แสนล้านบาท เพื่อรองรับการเพิ่มทุนใน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (PTTOR) รวมถึงการลงทุนในห่วงโซ่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และธุรกิจไฟฟ้า ตลอดจนการลงทุนที่ต่อยอดเพิ่มมูลค่าจากกิจการในปัจจุบัน และโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ เป็นต้น
"งบสำรองลงทุนส่วนหนึ่งเป็นงบที่ตั้งไว้สำหรับการปรับโครงสร้างธุรกิจน้ำมัน ก็เตรียมเพิ่มทุนในธุรกิจน้ำมัน ซึ่งต้องรอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเห็นชอบ ถ้าเห็นชอบเราก็จะ convert มาเป็นงบลงทุน ซึ่งตัวนี้เป็น part ใหญ่ นอกจากนั้นจะมีโครงการใหม่ๆ ที่เป็น s-curve เราก็ต้องเตรียมงบบางส่วนไว้ ธุรกิจ electricity value chain ก็ต้องเตรียมงบไว้ การลงทุน LNG value chain ส่วนนี้น่าจะเป็นสำหรับงบ provision"นายเทวินทร์ กล่าว
สำหรับงบสำรองที่เตรียมไว้ลงทุนในส่วนของ PTTOR เพื่อรองรับการรับโอนสินทรัพย์จาก ปตท.ในการปรับโครงสร้างธุรกิจน้ำมันที่จะแยกออกมาในอนาคต ภายหลังจากได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือน เม.ย.นี้ ขณะที่การลงทุนในห่วงโซ่ธุรกิจ LNG นั้น จะเป็นการพิจารณาลงทุนในส่วนของขั้นกลางที่จะมีการนำก๊าซธรรมชาติมาแปลงสภาพเป็นของเหลว ก่อนนำออกจำหน่าย ส่วนห่วงโซ่ธุรกิจไฟฟ้า จะเป็นทั้งในด้านของการผลิตไฟฟ้า, ระบบเก็บสะสมพลังงาน (energy storage) รวมถึงการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น
สำหรับงบลงทุน 5 ปีที่ได้รับความเห็นชอบเบื้องต้นจำนวน 3.39 แสนล้านบาทนั้น ปตท.ตั้งเป้าลงทุนหลักในโครงสร้างพื้นฐาน 43% ปรับโครงสร้างทางการเงิน 22% รองรับการปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีที่เบื้องต้นจะมีการโอนสินทรัพย์สายโพรเพนและชีวภาพ ให้กับ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) หรือการเพิ่มทุนในบริษัทลูกเพื่อรองรับการซื้อสินทรัพย์ที่จะโอนออกไปเช่นในกรณีของ PTTOR เป็นต้น, ธุรกิจ LNG ราว 14%, ธุรกิจน้ำมันและเทรดดิ้ง 12%, ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 4%, บริษัทย่อยและบริษัทร่วมค้า 4% และอื่น ๆ 1%
ทั้งนี้ โดยมีโครงการลงทุนที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ ท่อส่งก๊าซฯ เส้นที่ 5 มูลค่า 9.33 หมื่นล้านบาท, โครงการคลัง LNG แห่งที่ 2 มูลค่า 3.82 หมื่นล้านบาท เป็นต้น
นายเทวินทร์ กล่าวอีกว่า การลงทุนของกลุ่ม ปตท. ยังคงเน้นลงทุนให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) ขณะที่ล่าสุดการที่รัฐบาลจะพิจารณานำมาตรการภาษีมาจูงใจให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ EEC มากขึ้นนั้น เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับประเทศ และกลุ่ม ปตท.เพราะมีการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างมาก ทั้งโรงไฟฟ้า โรงกลั่น หรือปิโตรเคมี คลัง LNG ตลอดจนมีการพัฒนางานวิจัยเพื่อรองรับธุรกิจพลาสติกชีวภาพ ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วงปี 60-61 ด้วย
สำหรับการปรับโครงสร้างของกลุ่มธุรกิจทั้งในส่วนของปิโตรเคมีที่จะโอนสินทรัพย์บางส่วนให้กับ PTTGC นั้น เชื่อว่าจะเกิดผลดีต่อภารกิจของ ปตท.ที่ให้การสนับสนุนการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูง และการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ รวมถึงมีแผนจะแยกธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกออกจาก ปตท. เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน ขณะที่ในส่วนการลงทุนของ ปตท.จะเน้นให้ความสำคัญกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งรวมถึงธุรกิจเทรดดิ้งด้วย
ส่วนการลงทุนใหม่ ๆ จะเป็นการลงทุนผ่านบริษัทลูก ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจในการมองหาโอกาสการลงทุนต่าง ๆ เข้ามา แต่หากโครงการใดที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ และต้องการให้ ปตท.เข้าร่วมลงทุน ปตท.ก็พร้อมที่จะเข้าลงทุนโดยตรงแทน
"เราคุยกับบริษัทลูกว่า เนื่องจาก ปตท.จะไม่มีการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ธุรกิจที่ลูกทำโดยตรง ฉะนั้น ถ้าลูกไปเห็นโครงการที่เป็นโครงการใหม่และมีศักยภาพดีแล้วต้องการเงินลงทุนขนาดใหญ่ ปตท.ก็พร้อมที่จะลงทุนโดยตรง จะเป็นจุดหนึ่งที่พร้อมลงทุนด้วย แต่ให้ลูกดำเนินการ เราจะไม่ไปเป็นพาร์ทเนอร์กับข้างนอกแล้ว ให้ลูกเป็นคนคุย พาร์ทเนอร์กับใครได้ ถ้ามีความต้องการในเรื่องเงินทุน และอยากให้ปตท.ลงทุน เราจะพิจารณาลงุทนร่วมกับลูก โตไปพร้อมกับลูก แต่ศักยภาพ ความรู้ ความสามารถในการบริหารกิจการดำเนินการผ่านลูก ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจและผลิต เคมิคอล โรงกลั่น ไฟฟ้า อันนี้จะให้ลูกเป็นคนเดินต่อ" นายเทวินทร์ ระบุ
นอกจากนี้ การที่กลุ่มเปโตรนาสจะหาผู้ร่วมทุนในแหล่งปิโตรเลียม SK 316 ในมาเลเซียนั้น เชื่อว่า บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ให้ความสนใจด้วยเช่นกัน เพราะแหล่งดังกล่าวเป็นแหล่ง LNG ที่ปตท.ก็ให้ความสนใจอยู่แล้ว อีกทั้ง ปตท.ยังเตรียมที่จะทำสัญญาซื้อ LNG จากเปโตรนาสอีก 1.2 ล้านตัน/ปีด้วยเช่นกัน หลังล่าสุดผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลแล้ว
นายเทวินทร์ กล่าวถึงกรณีสินบนโรลส์ รอยซ์ว่า ตามที่ ปตท.เคยระบุถึงกรอบการทำงานเพื่อหาความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวภายใน 30 วันและครบกำหนดไปแล้วนั้น ปตท.สามารถดำเนินการได้เพียงระดับหนึ่ง โดยยังไม่สามารถนำตัวบุคคลที่กระทำผิดมาลงโทษได้ แต่มีการรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงเป็นฐานข้อมูล และวิเคราะห์จุดอ่อนที่จะทำให้เกิดการเรียกสินบน และมีแนวทางที่จะป้องกันไม่ให้เกิดกระบวนการเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ปตท.ได้ขอข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และบริษัทคู่ค้าเพื่อขอรายชื่อบุคคล แต่ยังไม่ได้คำตอบจากทั้ง 2 หน่วยงาน แต่ ปตท.ก็ได้มีการสนับสนุนหน่วยงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และขอความร่วมมือจากป.ป.ช. หากได้รับรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย
ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการบริษัทในสัปดาห์ก่อน ได้เห็นชอบแนวทางการปรับปรุงกระบวนการเพื่อป้องกันการทุจริต ได้แก่ การขึ้นทะเบียนนายหน้า จัดระบบการบันทึกการติดต่อในโครงการก่อสร้างและจัดซื้อ เพิ่มการเก็บเอกสารเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-document) ใช้แนวทางในการนำหลักเกณฑ์เรื่องข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact : IP) และการบริหารต้นทุน มาใช้ในโครงการท่อก๊าซฯเส้นที่ 5 และคลัง LNG แห่งที่ 2 เป็นต้น
ส่วนกรณีที่ผู้รับเหมาจากอินเดีย Punj Lloyd ที่ละทิ้งงานก่อสร้างสถานีเพิ่มแรงดันก๊าซฯ ในทะเล หลังจากปตท.ได้อนุมัติว่าจ้างบริษัทดังกล่าวตั้งแต่ปี 52 แต่ผ่านมาในปี 54 งานมีความก้าวหน้า 85% แต่ยังมีความล่าช้า ปตท.ได้ก็เจรจาและมีความยืดเยื้อก่อนจะหยุดงานเมื่อปี 56 ทั้งที่ทำงานได้เพียงกว่า 90% แต่ความต้องการใช้ของ ปตท.ยังมีอยู่ จึงต้องใช้การบริหารจัดการก๊าซฯ ในช่วงที่ผ่านมา โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการจัดส่งก๊าซฯ แต่ปตท.ต้องการให้งานจบ จึงได้เจรจาสัญญาใหม่เพื่อให้จบ ซึ่งทาง Punj Lloyd ไม่ได้ทำต่อโดยตรง แต่มี sub contractor มาดำเนินการแทน ดังนั้นจึงเป็นสัญญาเดิมที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 52 ที่ได้ทำกันมาก่อนที่บริษัทดังกล่าวจะถูกขึ้นบัญชีดำ (back list) จากปตท.
โดย Punj Lloyd ถูกขึ้นบัญชีดำจาก ปตท.เมื่อปี 57 จากที่ก่อนหน้านี้ได้งานรับเหมาก่อสร้างท่อส่งก๊าซฯ เส้นที่ 4 จากปตท. วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท แต่ไม่สามารถก่อสร้างได้ตามกำหนดเวลา และในท้ายที่สุดต้องหาผู้รับเหมาช่วงมาก่อสร้างแทนเช่นกัน
อนึ่ง Punj Lloyd ซึ่งเป็นผู้ก่อสร้างสถานีเพิ่มแรงดันก๊าซฯ ในทะเลดังกล่าวนั้น ได้จัดซื้อเครื่องกังหันแก๊สจากโรลส์ รอยซ์ เพื่อมาใช้ในโครงการดังกล่าว