นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า โครงการแนวราบของ SIRI ในจ.เชียงใหม่ได้รับการตอบที่ดีจากลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อบ้านเดี่ยวทั้ง 2 โครงการรวมกว่า 15 หลัง กวาดยอดขายรวมไปถึง 100 ล้านบาท ดันยอดขายบ้านเดี่ยวของ SIRI เพิ่มสูงขึ้น โดย“เศรษฐสิริ สันทราย"มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาทมียอดขายแล้วกว่า 85% และ“บุราสิริ สันผีเสื้อ"มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ยอดขายทะลุ 50% ในเฟสแรกเช่นกัน
ทั้งนี้ SIRI มองว่าอสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวมีแนวโน้มในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตลาดแนวราบได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสถานที่เที่ยวที่หลากหลาย จึงทำให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยสูงขึ้นทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย เป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง
“จังหวัดเชียงใหม่ได้รับความสนใจมากในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเป็นเมืองตากอากาศของลูกค้าชาวจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งนอกจากจะซื้อบ้านเดี่ยวเพื่ออยู่อาศัยแล้วยังซื้อเพื่อปล่อยเช่าระยะยาวสำหรับพักผ่อนในช่วงปีใหม่และตรุษจีน ซึ่งให้ผลตอบแทนค่าเช่าสูงถึง 6-8% ด้วย ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าชาวต่างชาติที่มาซื้อโครงการของแสนสิริส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง โดยซื้อแบบ Leasehold ซึ่งเป็นการเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่ได้กรรมสิทธิ์การอยู่อาศัยระยะเวลา 30 ปี"นายเมธา กล่าว
ทั้งนี้ “เศรษฐสิริ สันทราย"มีดีไซน์โดดเด่นของความเป็นล้านนาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคุ้มเจ้าแห่งเมืองเชียงใหม่ ผสานกับดีไซน์ทันสมัย บนทำเลใกล้ชิดธรรมชาติรับวิวดอยสุเทพโอบล้อมโครงการ และสัมผัสบรรยากาศร่มรื่นริมลำน้ำแม่คาว ขณะที่“บุราสิริ สันผีเสื้อ"เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดินผืนสุดท้ายของทำเลวงแหวนรอบนอกที่ 3 ที่สามารถพัฒนาเป็นบ้านจัดสรรก่อนปรับผังเมืองใหม่ โดยออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์บ้านบรรยากาศรีสอร์ท โอบล้อมด้วยวิวเทือกเขาถนนธงชัยและนาข้าว 360 องศา
นอกเหนือจากนี้ ลูกค้ายังได้รับบริการสุดพิเศษสำหรับลูกค้าชาวต่างชาติเฉพาะ ภายใต้ชื่อ “บริการฮักสบาย"ดูแลบ้านและสวนให้ลูกค้าฟรีตลอด 1 ปีเต็ม ทำให้ลูกค้าอุ่นใจและเชื่อมั่นในการซื้อโครงการที่อยู่อาศัยจากแสนสิริจึงทำให้ลูกค้าเลือกโครงการของแสนสิริในที่สุด" นายเมธา กล่าว
นายเมธา กล่าวว่า แนวโน้มอสังหาฯ ในจังหวัดเชียงใหม่ปีนี้ คาดว่าดีมานด์ยังเติบโต โดยจะมีลูกค้าชาวต่างชาติมากขึ้น ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ปัจจุบันนิยมซื้อบ้านเดี่ยวเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง เพราะได้พื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่ และใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทั้งนี้คาดว่าอนาคตอสังหาฯ เชียงใหม่จะเติบโตขึ้นต่อเนื่องจากโครงการรถไฟความเร็วสูง ที่เริ่มต้นก่อสร้างและจะแล้วเสร็จในปี 68 และโครงการพัฒนาสนามบินสันกำแพง ที่จะแล้วเสร็จในปี 68 ซึ่งจะสนับสนุนให้อสังหาฯ เชียงใหม่คึกคักและมีราคาพุ่งสูงขึ้นอีกแน่นอน