โบรกเกอร์เชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) เล็งผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 ฟื้นตัว ขานรับหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ด อาทิ Resident Evil : The Final Chapter, xXx 3: The Return of Xander Cage, Logan (Wolverine 3), Beauty and the Beast และ ภาพยนตร์ไทย Mr. Hurt ที่ได้รับความสนใจและทำรายได้ค่อนข้างดี
รวมถึงการเพิ่มจำนวนโรงภาพยนต์อีก 7 โรงในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่ง MAJOR ยังมีเป้าหมายการเพิ่มจำนวนโรงภาพยนตร์ให้ครบ 1,000 โรงในปี 63 จากสิ้นปี 59 มี 678 โรง ซึ่งเป็นการเปิดโรงภาพยนตร์ใหม่ทั้งในประเทศไทยและ CLMV ซึ่งนับว่ามีศักยภาพในการเติบโตที่ดี
พร้อมคาดการณ์กำไรปกติปี 60 ไว้ที่ 1,085-1,240 ล้านบาท เติบโตจากปี 59 โดยคาดว่าจะมีการเปิดโรงภาพยนตร์ใหม่ 70 โรง และคาดว่ารายได้โฆษณาจะฟื้นตัวขึ้นด้วย
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.19 น.หุ้น MAJOR อยู่ที่ 32.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+0.78%)
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
เออีซี ซื้อ 38.20
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ซื้อเก็งกำไร 34.50
กรุงศรี ซื้อ 36.00
บัวหลวง ซื้อ 35.00
ฟิลลิป ซื้อ 35.00
ฟินันเซีย ไซรัส ถือ 35.00
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง ให้เหตุผลแนะนำ"ซื้อ"หุ้น MAJOR มองแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 จะสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีโปรแกรมภาพยนต์ที่ได้รับความสนใจเข้าฉายเป็นจำนวนมาก ทั้งภาพยนตร์ไทยและภาพยนตร์ต่างประเทศ ประกอบกับมีการเพิ่มจำนวนโรงภาพยนตร์อีก 7 โรง ในช่วงไตรมาส 1/60 จากสิ้นปีก่อนมีจำนวนโรงภาพยนตร์ทั้งหมด 678 โรง
ทั้งนี้ ภาพรวมของธุรกิจยังมองว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากต่างประเทศ เตรียมเข้าฉายอย่างต่อเนื่อง และการขยายโรงภาพยนตร์เพิ่มอีก 70 โรงใหม่ ทั้งในประเทศไทย กัมพูชา และลาว รวมไปถึงจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากเงินประกันไฟไฟม้เมเจอร์ ปิ่นเกล้า ในช่วงครึ่งปีแรกราว 50 ล้านบาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯ แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น MAJOR ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 34.50 บาท จากเดิม 36.25 บาท โดยมองยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ยังคงขยายตัว อีกทั้ง MAJOR จะเพิ่มจำนวนโรงภาพยนตร์ให้ครบ 1,000 โรงในปี 63 (จากสิ้นปี 59 มี 678 โรง) ซึ่งเป็นการเปิดโรงภาพยนตร์ใหม่ทั้งในประเทศไทยและใน CLMV ซึ่งนับว่ามีศักยภาพในการเติบโต
แต่ได้ปรับลดประมาณการปี 60-61 ลง 14% และ 13% ตามลำดับ สะท้อนถึงรายได้ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ อย่างไรก็ดี คาดกำไร Q1/60 ฟื้นตัวขึ้น โดยภาพยนตร์ที่มีแนวโน้มทำรายได้ดี เช่น Resident Evil : The Final Chapter, xXx 3: The Return of Xander Cage, Logan (Wolverine 3), Beauty and the Beast และ ภาพยนตร์ไทย Mr. Hurt
พร้อมประเมินกำไรปกติปี 60 เติบโต 23% เป็น 1,085 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีการเปิดโรงภาพยนตร์ใหม่ไม่ต่ำกว่า 70 โรง และคาดรายได้โฆษณาฟื้นตัวขึ้น
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของ MAJOR ในช่วงไตรมาส 1/60 คาดว่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า เพราะมีภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดถึง 14 เรื่องที่มีศักยภาพเข้าฉาย โดยมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ได้รับความสนใจมากรวมอยู่ด้วย คาดว่าจะทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท/เรื่อง และยังมีภาพยนต์ไทย 1 เรื่องที่มีโอกาสทำรายได้หลัก 100 ล้านบาท
นอกจากนั้นคาดว่ายังมีโปรแกรมภาพยนต์ฟอร์มยักษ์หลาย ๆ เรื่องตลอดทั้งปีนี้ที่เตรียมเข้าฉาย และการเพิ่มจำนวนโรงฉายมากกว่า 70 โรง/ปี จากปัจจุบันมีจำนวนโรงภาพยนต์ทั้งสิ้น 678 โรง จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนกำไรของ MAJOR ซึ่งคาดว่ากำไรสุทธิของปีนี้จะอยู่ที่ 1.24 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 1.18 พันล้านบาท