บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 85 ล้านหุ้น และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ราวไตรมาส 2/60 หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัท โดยมี ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA)
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและใช้ลงทุนโครงการในอนาคต เช่น โครงการลงทุนเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการผู้ป่วยของโรงพยาบาลธนบุรีและโรงพยาบาลธนบุรี 2 โครงการโรงพยาบาลศูนย์พักฟื้นธนบุรี ซึ่งจะช่วยผู้ป่วยลดภาระค่าใช้จ่ายระหว่างพักฟื้นและโครงการเมดิคอลซิตี้ รังสิต ซึ่งเป็นโครงการสำหรับดูแลผู้ป่วยสูงอายุครบวงจร
นายบุญ วนาสิน ประธานกรรมการ THG กล่าวว่า บริษัทฯได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 85 ล้านหุ้น คิดเป็น 10.01% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ล่าสุด ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งของ บริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ในภายในไตรมาส 2/60 และจะเดินสายให้ข้อมูลแก่นักลงทุนได้ในช่วงมี.ค.-เม.ย.นี้
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 849.08 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 849.08 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและชำระแล้ว 764.08 ล้านบาท
สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯจะนำเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและใช้ลงทุนโครงการในอนาคต เช่น โครงการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้บริการผู้ป่วยของโรงพยาบาลธนบุรี และโรงพยาบาลธนบุรี 2 ,โครงการโรงพยาบาลศูนย์พักฟื้น ธนบุรี ซึ่งจะช่วยผู้ป่วยลดภาระค่าใช้จ่ายระหว่างพักฟื้น และโครงการเมดิคอลซิตี้ รังสิต ซึ่งเป็นโครงการสำหรับดูแลผู้สูงอายุครบวงจร
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 58 มีรายได้ 5,786.67 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 551.83 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 59 มีรายได้รวม 4,661.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.67% และมีกำไรสุทธิ 405.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.26% ซึ่งด้านฐานะทางการเงินถือว่ามีความแข็งแกร่ง โดยสิ้นสุด ไตรมาส 3/59 มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.98 เท่า
ขณะที่ผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯคาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่าปีก่อน จากรายได้จากการรับจ้างบริหารโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้มาจากค่ารักษาพยาบาลราว 93% และรายได้จากการบริหารกว่า 6% ขณะที่ภายใน 5 ปีจากนี้ ตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้มาจากค่ารักษาพยาบาลและจากการบริหาร 50:50 ซึ่งบริษัทฯจะเน้นการบริหารจัดการมากขึ้น เนื่องจากมีมาร์จิ้นสูง โดยเฉพาะในต่างประเทศ เช่น จีน ,พม่า,แอฟริกา,เวียดนาม เป็นต้น
บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจหลักเป็น 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มที่หนึ่งธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ที่สร้างรายได้หลัก ประกอบด้วย โรงพยาบาลเอกชนของบริษัทฯ ,บริษัทย่อย และบริษัทร่วม คือ รพ.ธนบุรี ,รพ.ธนบุรี 2 ,รพ.ราษฎร์ยินดี จ.สงขลา , รพ.อุบลรักษ์ ธนบุรี จ.อุบลราชธานี และรพ.สิริเวช จันทบุรี จ.จันทบุรี
ด้านธุรกิจรักษาพยาบาลในต่างประเทศ บริษัทฯได้ร่วมทุนกับ WEGO Holding Company Limited ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน จัดตั้งบริษัท Weihai Thonburi Healthcare Investment Company Limited ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ภายใต้ชื่อ รพ. welly Golden Bay Hospital ตั้งอยู่ที่เมืองเวยไห่ มณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน
รวมถึงธุรกิจรับจ้างเหมาบริหารจัดการโรงพยาบาล ได้แก่ รพ.เมืองพัทยา ,รพ.อบจ.ภูเก็ต และศูนย์แพทย์ชุมชนนานาชาติเกาะล้าน อีกทั้งยังให้บริการธุรกิจศูนย์แพทย์เฉพาะทาง โดยที่ผ่านมาได้ทำสัญญาร่วมให้การรักษาด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด แก่บริษัท รพ.ภัทร จำกัด และได้ทำสัญญาจ้างเหมาบริการการรักษา ทำหัตถการผู้ป่วยกลุ่มโรมหัวใจและหัวใจขาดเลือดให้แก่ รพ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขแห่งแรกที่ร่วมกับเอกชนให้บริการผู้ป่วยกลุ่มนี้
นอกจากนี้กลุ่มที่สอง คือ ธุรกิจ Healthcare Solution Provider ประกอบด้วยธุรกิจ Home Healthcare เพื่อให้บริการดูแลรักษาทางการแพทย์ถึงบ้านแบบองค์รวมแก่ผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเอง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง ดูแลแม่และเด็ก และกายภาพบำบัดแก่ผุ้ที่ไม่สะดวกเดินทางมายังโรงพยาบาล รวมถึงทำความสะอาดฆ่าเชื้อและกำจัดไรฝุ่น สำหรับผู้ป่วยโรงภูมิแพ้ ,ธุรกิจศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วย (Stap-Down Care) เพื่อให้บริการผู้ป่วยที่ไม่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และยังมีธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เครื่องเวชภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ และทันตกรรมครบวงจร ในชื่อบริษัท ทันตสยาม จำกัด ซึ่งดำเนินการมากกว่า 30 ปี และมีร้านขายยา Apex Healthcare 10 สาขา ให้บริการตามห้างสรรพสินค้า
กลุ่มที่สาม คือ ธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ ธุรกิจพัฒนาระบบซอฟแวร์เพื่อการบริหารโรงพยาบาล และธุรกิจพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับบริการด้านการแพทย์และสุขภาพในอนาคต