บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เตรียมลงทุนในปีนี้กว่า 3 หมื่นล้านบาท สำหรับ 7 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการทั้งในประเทศและต่างประเทศ แบ่งเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 6 โครงการ ได้แก่ โครงการ SPP ในประเทศ 3 โครงการ, โรงไฟฟ้าไซยะบุรีใน สปป.ลาว, โรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา และโรงไฟฟ้ามาซินลอค หน่วยที่ 3 ในฟิลิปปินส์ ซึงจะก่อสร้างและทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 60-62
รวมทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างการโอนหุ้น 1 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภาพซาลัก และดาราจัทในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/60
ทั้งนี้ งบลงทุนดังกล่าวยังไม่นับรวมโครงการใหม่ที่เตรียมเข้าไปลงทุน ทั้งการซื้อโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว เพื่อรับรู้รายได้ทันทีและโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในต่างประเทศอีก 4 โครงการ ได้แก่ สปป.ลาว 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำปากแบง ที่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำเทิน 1 ซึ่งอัยการสูงสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) หลังจากรัฐบาลเห็นชอบแล้ว
ส่วนอินโดนีเซียมี 1 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนใต้พิภพ "สตาร์ เอ็นเนอร์ยี่"ส่วนขยาย หน่วยที่ 3 และ 4 ซึ่งอยู่ระหว่างการเจตรจาค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้าของอินโดนีเซีย และเวียดนามมี 1 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาเสนอขายไฟฟ้ากับรัฐบาลเวียดนาม
สำหรับประเทศไทย บริษัทเล็งเห็นโอกาสลงทุนในโรงไฟฟ้า SPP และ VSPP ประเภทพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งการต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า SPP ประเภทโคเจนเนอเรชั่น ของ EGCO กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
EGCO ยังระบุว่า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 30% ภายในปี 69 จากปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์แล้ว 16 โรง คิดเป็นกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญา และตามสัดส่วนการถือหุ้น 751 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็น 18% ของกำลังผลิตทั้งหมดของ EGCO