นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและการลงทุน บลจ.บัวหลวง (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 27 ก.พ. – 8 มี.ค. นี้ เป็นช่วงเสนอขายครั้งแรก (IPO) ของกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) ที่ลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับอินโนเวชั่นและเทคโนโลยีทั่วโลก มีมูลค่าขั้นต่ำของการลงทุนเพียง 500 บาท ในราคาหน่วยลงทุนละ 10 บาทและมีค่าธรรมเนียมการซื้อ 1% โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการขายคืน
ทั้งนี้ B-INNOTECH จะมุ่งหาผลตอบแทนในระยะยาว โดยเน้นลงทุนในต่างประเทศในหน่วยลงทุนของ Fidelity Funds - Global Technology Fund (Class Y-ACC-USD) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักจะเน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือบริการ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์จากความก้าวหน้าและการพัฒนาทางเทคโนโลยี
กองทุนหลักมุ่งหาไอเดียด้านการลงทุนที่ดีที่สุดในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหรือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั่วโลก โดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีประกอบไปด้วยเซ็คเตอร์ย่อยเป็นจำนวนมาก มีความหลากหลายช่วยกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน นอกจากนี้ ยังประกอบไปด้วยบริษัทที่มีนวัตกรรมที่น่าสนใจจำนวนมาก อันจะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว ในกิจการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีแบบใหม่ เช่น ‘big data’ storage company, cloud computing, internet of things, e-commerce and non-cash payments เป็นต้น
“ผู้จัดการกองทุนหลัก มีแนวทางการวิเคราะห์หลักทรัพย์ในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นรายบริษัทที่น่าสนใจ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ 1) Growth Company บริษัทที่จะเติบโตสูงในระยะยาวจากการที่มีนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีที่เมื่อนำเข้ามาใช้แล้วจะส่งผลกระทบ (disruption) ต่อการตลาดของผลิตภัณฑ์เดิม รวมทั้งอาจจะทำให้ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีแบบเดิมๆ ล้มหายตายจากไป การลงทุนบริษัทในกลุ่มนี้กองทุนหลักจะถือลงทุนอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป 2) Opportunistic Cyclical บริษัทที่มีแนวโน้มตามวงจรธุรกิจขาขึ้น และ 3) Special Situations บริษัทที่มีมูลค่าต่ำกว่าพื้นฐานเหตุจากการที่ขาดปัจจัยใหม่ๆ ที่ชัดเจนในระยะสั้น หรือมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารงาน" นายพีรพงศ์ กล่าว
นายพีรพงศ์ กล่าวว่า กองทุนบัวหลวงมองเห็นโอกาสจากการลงทุนจากการเติบโตของเทคโนโลยีในยุคดิจิตัล (Digitalization) หรือที่เรียกได้ว่าเป็นยุคสมัย The Era of Now ที่เทคโนโลยีและอินโนเวชั่นใหม่ๆ ได้ก้าวเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวัน และความเป็นอยู่ของคนทั่วโลกอย่างแยกกันไม่ออก
“ทุกวันนี้เราก้าวเข้าสู่ยุค Digitalization เต็มรูปแบบเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราตั้งแต่เช้าจนหลับตลอด 24 ชั่วโมง เรามีสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน แทบจะทุกอุตสาหกรรมเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ" นายพีรพงศ์ กล่าว
“ในแง่ผู้บริโภค เทคโนโลยีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนดีขึ้น ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมต่างๆ สามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ขจัดความไม่มีประสิทธิภาพแบบเดิมๆ เกิดช่องทางธุรกิจใหม่ๆ ช่วยลดต้นทุน ช่วยในการขาย การกระจายสินค้า และพาผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกันโดยตรง สุดท้ายผู้บริโภคจะเป็นคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด"
นายพีรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจที่ไม่ยอมหยุดนิ่งรู้จักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ จึงเป็นกิจการที่น่าสนใจสำหรับกองทุนบัวหลวง ซึ่งจะสอดคล้องกับ theme การลงทุนของปี 2560 ของกองทุนบัวหลวงที่ว่า “ชีวิตสบายด้วยเทคโนโลยี ชีวิตดีด้วยพลังงานสะอาด"