นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า ภาคตลาดทุนและตลาดการเงินได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่เพื่อก่อตั้ง "กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย" ซึ่งเบื้องต้นความร่วมมือของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไม่ต่ำกว่า 14 องค์กรที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารสูงถึง 90% ของทั้งอุตสาหกรรมกองทุนรวม หลังจากที่ได้ร่วมเปิดตัว"หลักธรรมาภิบาลการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน" หรือ I Code เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กองทุนทื่จะอยู่ภายใต้หลักการของ"กองทุนรวมธรรมมาภิบาลไทย"จะมีทั้งกองทุนที่ลงทุนในหุ้นและกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) คาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนได้ในช่วงกลางปี 60 ซึ่งทั้ง 14 องค์กรจะร่วมกันกำหนดกติกาการกลั่นกรองหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่มีคุณสมบัติการกำกับกิจการที่ดี (CG) เข้ามาอยู่ในตะกร้าเดียวกัน เพื่อเป็นตัวเลือกให้กองทุนดังกล่าวเข้ามาลงทุน
กองทุนดังกล่าวจะมีกลไกการตรวจสอบที่เชื่อถือได้ และ มีคณะกรรมการทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองอย่างโปร่งใส นอกจากนี้ ยังจะแบ่งรายได้จากการบริหารกองทุนในสัดส่วน 40% ไปสนับสนุนองค์กร หรือ โครงการที่มีแนวคิดในการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในตลาดทุนต่อต้านคอร์รัปชั่น อาทิ โครงการข้อตกลงคุณธรรม โดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) โครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น (CAC) โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) รวมถึงโครงการต่าง ๆ ด้านหลักสูตรที่ปลูกฝังคุณธรรมด้านธรรมาภิบาลให้กับเยาวชน
"กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย ถือเป็นนวัตกรรมที่จะสร้างบรรทัดฐานใหม่ทางสังคมให้แก่ภาคเอกชนไทยและบริษัทจดทะเบียน โดยนักลงทุนทั้งบุคคลและสถาบันได้มีส่วนร่วมในการพัฒนายกระดับธรรมาภิบาลเพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์ปชั่น และ เชื่อว่ากองทุนนี้จะสามารถสร้างผลลัพธ์ทางสังคม สร้างผลตอบแทนแบบยั่งยืน เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับความเสียหายของประเทศจากการทุจริตคอร์รัปชั่นที่มีมูลค่าสูงถึงหลักแสนล้านบาท"นางวรวรรณ กล่าว
นางวรวรรณ กล่าวอีกว่า ในระยะแรกจะมีการคัดเลือกหุ้นที่มาจากกลุ่มที่ได้รับรางวัลด้านความยั่งยืนประจำปี 2559 (SET Sustainability Awards 2016) ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนได้รับการคัดเลือกจำนวน 55 แห่ง แบ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) จำนวน 50 บริษัท และ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 5 บริษัท
"เราจะใช้ 55 หุ้น ที่อยู่ในกลุ่มความยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์มาก่อน ซึ่งเราต้องเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นผลประกอบการ ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน และการดำเนินกิจการ ซึ่งจะร่วมกับ บลจ. ทั้ง 14 แห่งในการพิจารณาและจะมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง"นางวรวรรณ กล่าว