JMT ปรับเพิ่มเป้าซื้อหนี้มาบริหารในปีนี้เป็น 5 หมื่นลบ.จากเดิม 3 หมื่นลบ.หลังแบงก์-นอนแบงก์เน้นลด NPL

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 27, 2017 17:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารในปีนี้เป็นมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 3 หมื่นล้านบาท เพราะแนวโน้มความต้องการขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสถาบันการเงินทั้งกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มนอนแบงก์ มีออกมาเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวอยู่ ประกอบกับสถาบันการเงินมีความต้องการควบคุมและลดสัดส่วนหนี้ NPL ลดต่ำลง

ปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนให้บริษัทสามารถเข้าซิ้อหนี้เข้ามาบริหารได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าในครึ่งปีแรกจะซื้อหนี้เข้ามาบริหารมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท และส่วนที่เหลือจะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นช่วงที่สถาบันการเงินจะตัดจำหน่ายหนี้ขายเป็นจำนวนมาก เพื่อลด NPL ในช่วงท้ายปี ซึ่งสิ้นปี 60 คาดว่าจะมีพอร์ตบริหารหนี้แตะ 1.5 แสนล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท

สำหรับการขยายโอกาสของธุรกิจในอนาคต ด้านการรับจ้างติดตามหนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อย ชื่อ บริษัท เจเอ็มที (กัมพูชา) จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจรับจ้างติดตามหนี้ และ Call Center โดยเป็นบริษัทที่จัดตั้งในประเทศกัมพูชา ทุนจดทะเบียน ประมาณ 30.6 ล้านบาท โดย JMT ถือหุ้น 100% ใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ด้วยเป้าหมายในการก้าวเป็นผู้นำในด้านการติดตามหนี้ และบริหารหนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ในอนาคต

ส่วนในปี 59 เป็นปีที่บริษัทสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น ทำสถิติรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเชื่อว่าในปี 60 ทิศทางธุรกิจจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากภาพรวมหนี้ NPL มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้สถาบันการเงินต่าง ๆ ขายหนี้เสียออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสของ JMT ในการรุกตลาด

นายปิยะ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 290 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 207% ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,063.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 47.9% เนื่องจากธุรกิจติดตามหนี้ และซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารมีการเติบโตที่ดี บริษัทสามารถติดตามหนี้ได้อย่างดีเยี่ยม มียอดจัดเก็บได้สูงที่สุดอยู่ที่ 1,026 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ