นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชีวาทัย (CHEWA) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมรุกลงทุนโครงการที่พัอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Exclusive Hi-end Retirement Village) ในจังหวัดภูเก็ต มูลค่า 3.9 พันล้านบาท โดยเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรไทยและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 33% หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของทุนจดทะเบียน
โครงการดังกล่าวจะเป็นคอนโดมิเนียมและวิลล่า ระดับซุปเปอร์ลักชัวรี่ เจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน ที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทนี้ค่อนข้างมาก โดยโครงการนี้จะใช้แบรนด์ต่างชาติเข้ามาบริหาร ซึ่งบริษัทเตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนและแถลงข่าวการลงทุนโครงการดังกล่าวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 2/60 โดยมีที่ดินรองรับการพัฒนาไว้แล้ว และเป็นครั้งแรกที่บริษัทรุกไปสู่ตลาดต่างจังหวัด นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทั้งไทยและต่างชาติเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการแนวราบหรือคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นแผนการสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็วให้กับบริษัท โดยหากได้พันธมิตรร่วมทุนเป็นพันธมิตรท้องถิ่นจากไทยบริษัทก็ลงทุนพัฒนาโครงการแนวราบในทำเลรอบๆกรุงเทพฯ แต่หากเป็นพันธมิตรจากต่างชาติเข้ามาร่วมทุนก็จะลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ โดยจะใช้แบรนด์ใหม่ ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับการร่วมทุนได้ภายในปี 60
"การต่อยอดการเติบโตที่รวดเร็วของบริษัท เราไม่สามารถที่จะโตอย่างรวดเร็วไปได้ด้วยตัวเองได้ เพราะการแข่งขันในวงการค่อนข้างรุนแรง และแบรนด์ของเราก็ยังมีความแข็งแรงไม่เท่ากับแบรนด์ใหญ่ ตรงนี้ตามเป้าหมายเราก็ต้องหาพันธมิตรมาร่วมทุนเพื่อเป็นแนวทางต่อยอดการเติบโตที่รวดเร็วให้กับบริษัท"นายบุญ กล่าว
สำหรับเป้าหมายรายได้ในปี 60 บริษัทตั้งเป้าอยู่ที่ 2 พันล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ทำรายได้อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท โดยจะมีการทยอยรับรู้รายได้จากยอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท จากมูลค่า Backlog ที่มีอยู่ในปัจจุบัน 3.2 พันล้านบาท ส่วนยอดขายในปีนี้บริษัทตั้งเป้าอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 2.4 พันล้านบาท
บริษัทวางแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 60 ทั้งหมด จำนวน 9 โครงการ 1.32 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมีเนียม 3 โครงการ โครงการแนวราบ 4 โครงการ โครงการโฮมออฟฟิศ 1 โครงการ และโครงการที่พัอาศัยสำหรับคนวัยเกษียณ 1 โครงการ ซึ่งโครงการที่เปิดไหม่ไนปี 69 เป็นโครงการเลื่อนมาจากปี 59 จำนวน 4 โครงการ
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน 4 ทำเล เพื่อพัฒนาเป็นโครงการแนวราบ โดยจะใช้งบสำหรับการซื้อที่ดินราว 2 พันล้านบาท ซึ่งในปี 60 บริษัทจะมีการปรับความสมดุลของพอร์ทโครงการระหว่างแนวราบและคอนโดมิเนียมให้ใกล้เคียงกัน โดยสัดส่วนโครงการแนวราบจะอยู่ที่ 40% สัดส่วนโครงการคอนโดมิเนียม 55% และอีก 5% เป็นสัดส่วนโรงงานให้เช่าของบริษัทในอมตะ ซิตี้ ระยอง
บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมรับรู้รายได้ในปีนี้ อีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการชีวารมย์ รังสิต-ดอนเมือง ,โครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ และโครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ อโศก มูลค่าโครงการรวมประมาณ 3.2 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทมีแผน Grand opening ทั้ง 3 โครงการในปีนี้ ซึ่งบริษัทมียอดขายจาก 3 โครงการดังกล่าวแล้วเกือบ 50%
อีกทั้งบริษัทกำลังพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ประเภทอาคารสูง (High Rise) คือ โครงการชีวาทัย เพชรเกษม 27 ซึ่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จและสามารถรับรู้รายได้ในปี 61
นายบุญ กล่าวอีกว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้มองว่ามีปัจจัยเสี่ยงเรื่องการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ซึ่งหากไม่เป็นไปตามกำหนดการของรัฐบาลอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยอยากให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาเพิ่มเติมออกมาอีก ส่วนอัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังเป็นแรงกดดัน ซึ่งบริษัทพยายามคัดกรองลูกค้ามากขึ้น และเน้นขายโครงการระดับกลางที่มีราคา 2 ล้านบาทขึ้นไป เพราะยอดปฏิเสธสินเชื่อไม่สูง