(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์รอ"ทรัมป์"แถลงต่อสภาคองเกรสเช้านี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 1, 2017 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์รอติดตามนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐแถลงต่อสภาคองเกรสในช่วงเช้าวันนี้ โดยรอดูว่าสรุปแล้วนโยบายจะออกมาในทางไหน หากนโยบายออกมาชัดเจนมีรายละเอียดมากขึ้น ตลาดฯจะตอบรับในเชิงบวก แต่ถ้าไม่มีรายละเอียด ตลาดฯอาจโดน take profit

นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 13 วัน ซึ่งก็มองเป็นการปรับฐานหลังจากที่ขึ้นไปมากแล้ว และคาดว่านโยบายของ"ทรัมป์"อาจจะยังไม่มีรายละเอียดออกมา ทั้งนี้ หากนโยบายของ"ทรัมป์"ออกมาดีต่อเศรษฐกิจโลก ตลาดฯก็จะตอบรับในเชิงบวก แต่เท่าที่ดูน่าจะเอื้อต่อสหรัฐฯ อีกทั้งมีบางสำนักเท่านั้นที่มองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งทำให้น้ำหนักเพิ่มเป็น 50% จากเดิม 20%

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยเงินบาทเช้านี้อ่อนค่า พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,567 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 ก.พ.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,812.24 จุด ลดลง 25.20 จุด (-0.12%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,825.44 จุด ลดลง 36.46 จุด (-0.62%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,363.64 จุด ลดลง 6.11 จุด (-0.26%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 107.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 108.49 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 0.65 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9.69 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.87 จุด

ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันอิสรภาพ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ก.พ.60) 1,559.56 จุด เพิ่มขึ้น 1.53 จุด (+0.10%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,112.82 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.พ.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 ก.พ.60) ปิดที่ 54.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับลง 4 เซนต์ หรือ 0.09%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ก.พ.60) ที่ 5.97 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.98 ทรงตัวใกล้เคียงช่วงเย็นวานนี้ นลท.จับตาดูถ้อยแถลง"ทรัมป์"เช้านี้
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน ม.ค.ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากใช้จ่ายภาครัฐ มูลค่าการส่งออกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เคยลดลงกลับมาเพิ่ม 6.5% ทำให้มีโอกาสที่ ธปท.จะประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น ในการประมาณการเศรษฐกิจ (จีดีพี) ครั้งหน้าในเดือน มี.ค.นี้
  • นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงานได้ประชุมพิจารณาข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีที่ให้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) โรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ใหม่อีกครั้ง
  • ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) รายงานว่า ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจำเป็นต้องเร่งลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานถึง 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ/ปี (ราว 59.3 ล้านล้านบาท) ไปจนถึงปี 2030 รวม 26 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 907 ล้านล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากตัวเลขคาดการณ์เดิมในปี 2009 เพื่อรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและเพื่อตอบรับความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น
  • ดับบลิวซีเปิดผลศึกษาอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ 32 ประเทศในอนาคต ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยถดถอย ตกอันดับจาก 20 ไปอยู่ที่ 25 ภายในปี 2593 ขณะที่หลายประเทศคู่แข่งในอาเซียนแซงหน้าไทย ต้นเหตุประชากรวัยทำงานหดตัว สวนทางอัตราคนเกิดใหม่ติดลบ
  • ก.ล.ต.มีแนวคิดจัดระเบียบการเสนอขายตั๋วแลกเงิน (บี/อี) โดยให้บริษัทจดทะเบียนที่ต้องการระดมทุนเสนอขายได้เฉพาะนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนเฉพาะเจาะจง 10 ราย (พีพี 10) ที่รู้จักบริษัทผู้ออกเป็นอย่างดีเท่านั้น ขณะที่นักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูง (เอไอ) ไม่สามารถซื้อตั๋วบี/อีได้แต่ยังสามารถซื้อหุ้นกู้ได้ตามปกติ ซึ่งความคืบหน้าในการดำเนินการตามแนวคิดจะมีความชัดเจนใน 2-3 เดือน และจะเริ่มใช้ได้จริง ปี 2561 เนื่องจากต้องรอให้บริษัทจดทะเบียนปรับตัว และต้องคำนึงถึงการประชุมผู้ถือหุ้น เนื่องจากการออกหุ้นกู้จะต้องขอมติที่ประชุม ผู้ถือหุ้น ต่อจากก่อนหน้านี้ ก.ล.ต.ได้ออกเกณฑ์ปรับเกณฑ์ดูแลตัวกลางและการเปิดเผยการขายต่อ ก.ล.ต.แล้ว เช่น กำหนดให้บริษัท หลักทรัพย์ขายตราสารหนี้ที่ออกใหม่

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CK (ฟันันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 40 บาท กำไรดีกว่าคาด แม้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากในหลายโครงการที่ต้องส่งมอบงาน แต่กำไรสุทธิ 4Q59 ยังทำได้ 342 ล้านบาท ใกล้เคียงระดับปกติของบริษัท +4% Q-Q และดีกว่า 4Q15 ที่ขาดทุน รวมทั้งดีกว่าเราและตลาดคาด น่าจะทำให้ความกังวลของตลาดหายไป และมองถึงศักยภาพในการได้งานใหม่ในอนาคต ขณะที่ Backlog และงานที่กำลังจะเซ็นสัญญามีร่วม 1 แสนล้านบาท รองรับรายได้ 2-3 ปีข้างหน้า
  • QH (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 3.10 บาท กำไรสุทธิ 4Q59 ตามคาดที่ 678 ล้านบาท ลดลง 48%YoY และ 12%QoQ จากรายได้การขายโอนอสังหาที่อ่อนตัว 50%YoY และ 14%QoQ หรือที่ 3,622 ล้านบาท จากแผนเปิดโอนโครงการที่ต่ำ และผลกระทบของเหตุการณ์ในช่วง 4Q59 พร้อมมองผลประกอบการปี 60 จะมีแรงหนุนหลัก จากการขายโอน 10 โครงการแนวราบเปิดใหม่ โดยคาดจะมีกำไรสุทธิทั้งปีเติบโตได้ที่ 9% หรือที่ประมาณ 3,359 ล้านบาท
  • CPN (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 75 บาท รายงานกำไรปี 59 เท่ากับ 9,243 ลบ. +17% ใกล้เคียงกับที่คาด และประกาศร่วมทุนกับ DTC พัฒนาโครงการ Mixed-Use ย่านหัวมุมถนนสีลม-พระรามสี่ มูลค่า 3.67 หมื่นลบ. เงินลงทุนในส่วนของ CPN ไม่เกิน 17,393 ลบ.
  • SQ (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า Consensus 6.05 บาท กำไร 4Q59 = 176 ล้านบาท (+1,343% QoQ) ดีกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ราว 70-80 ล้านบาท คาดเป็นผลจากอัตราการใช้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าหงสาที่ฟื้นตัวเป็น 77% (จาก <65%) โดย SQ รับเหมาขุดถ่านหินป้อนโครงการโรงไฟฟ้าหงสา โดยฝ่ายวิจัยคาดอัตราการใช้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าหงสาในปีนี้จะปรับดีขึ้นเป็น 75% จากระดับ 63% ในปี 2559 คาดเป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของ SQ ปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ