หุ้น NPP ราคาร่วงแรง 8.57% มาอยู่ที่ 0.96 บาท ลดลง 0.09 บาท มูลค่าซื้อขาย 15.83 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.11 น. โดยเปิดตลาดที่ 0.95 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.97 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.95 บาท
บมจ. นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) หรือ NPP และบริษัทย่อย ขาดทุนปี 59 เท่ากับ 137.81 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.00015 บาท จากปีก่อนที่ขาดทุน 139.26 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.00016 บาท
พร้อมชี้แจงว่า ในปี 59 บริษัทมีรายได้จากการขาย 941.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 661.4 ล้านบาท หรือ 236% จากปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯขยายลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และเริ่มรับรู้รายได้ในปี 59 เป็นปีแรก อีกทั้งธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกมีรายได้เติบโตขึ้น และบริษัท พร้อมแพค จำกัดซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีการรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้ ทำให้กำไรขั้นต้นสำหรับปีเท่ากับ 165.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 194.5 ล้านบาท หรือเท่ากับ 680% จากปีก่อน
ทั้งนี้ NPP ระบุอีกว่าธุรกิจร้านอาหารที่เริ่มรับรู้รายได้ในปี 59 ได้แก่ ร้านอาหารเอ แอนด์ ดับบลิว เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน ม.ค.59 เป็นต้นไป ณ สิ้นปีก่อนมีสาขาทั้งสิ้น 30 สาขา, ร้านมิยาบิ กริลล์ เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน มี.ค.59 เป็นต้นไป ณ สิ้นปีมีสาขาทั้งสิ้น 5 สาขา และ ร้านอาหารมิสเตอร์โจนส์ ออร์ฟาเนจ เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน ก.ย.59 เป็นต้นไป ณ สิ้นปีมีสาขาทั้งสิ้น 4 สาขา
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีขาดทุนส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 137.8 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 1.5 ล้านบาท หรือเท่ากับ 1% เนื่องจากในระหว่างปีมีการขยายธุรกิจที่สำคัญ คือ บริษัทฯได้ซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปเรชั่น จำกัด ทำให้บริษัทมีอำนาจในการบริหารจัดการ 100%
และ บริษัทยังลงทุนเพิ่มในบริษัท นิปปอน ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ไทยลักซ์ ฟู้ด โปรดักส์) เดิมเป็นบริษัทร่วมจึงรวมเฉพาะผลกำไรขาดทุนเท่านั้นตั้งแต่เดือน ส.ค.58 และรับรู้รายได้เนื่องจากเป็นบริษัทย่อยตั้งแต่เดือน ก.ค.59 เป็นต้นไป
ขณะที่บริษัท ไทยเฟลคซิเบิลแพค จากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยลงทุนในธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์"เดอะ บรีโอ้ มอลล์"โดยบริษัทฯถือหุ้นสัดส่วน 55% ของหุ้นทั้งหมดและรับโอนทรัพย์สิน ตลอดจนรับรู้รายได้เมื่อวันที่ 1 ก.ค.9 เป็นต้นไป