นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินเกมการตลาดตอกย้ำความแข็งแกร่งแบรนด์แบบเหนือชั้นรับปี 60 หวังครองใจกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ด้วยการทำกิจกรรมการตลาด “Experience Marketing" หรือ การตลาดผ่านการเติมเต็มประสบการณ์แห่งการใช้ชีวิต ที่เน้นการสร้างประสบการณ์ เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ และสร้าง Emotional Connection และรู้สึกใกล้ชิดแบรนด์แสนสิริมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับรสนิยมและความต้องการของลูกค้า เน้นการเข้าถึงและสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายด้วยกิจกรรมที่ถูกสร้างสรรค์มาเป็นพิเศษเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่
สำหรับกิจกรรมแรกในปีนี้ของแสนสิริภายใต้กลยุทธ์ Experience Marketing คือ “คุณ ดีเอ็นเอ เอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม บาย บอมพาส์ แอนด์พาร์" (KHUN’s DNA Exploratorium by Bompas & Parr) ปาร์ตี้อีเวนท์สุดฮิปที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในประเทศไทยและในวงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อมอบประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แนวใหม่ระดับเวิลด์คลาส ให้ทุกคนได้สนุกสนาน และสะท้อนตัวตนในแบบคุณที่หาที่ไหนไม่ได้มาก่อน เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีรสนิยมและหลงใหลในงานศิลปะและดีไซน์รวมถึงชอบแสวงหาประสบการณ์ที่ตื่นตาตื่นใจให้กับตัวเองแบบมีเอกลักษณ์ แสนสิริ จึงเลือกร่วมงานกับ บอมพาส์ แอนด์ พาร์ ซึ่งมี คาแรกเตอร์และผลงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์โดดเด่น สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ โครงการคุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค (KHUN by yoo inspired by Starck) ที่โดดเด่นด้านการออกแบบและดีไซน์ล้ำสมัย รวมถึงแวดล้อมไปด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในย่านทองหล่อที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวาแบบครบวงจร ถ้าเปรียบเสมือนคนก็จะเป็นคนที่มีความเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชอบความไม่เหมือนใคร และไม่หยุดนิ่ง
โครงการคุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค (KHUN by yoo inspired by Starck) เป็นโครงการ Branded Condominium แห่งแรกของแสนสิริในความร่วมมือกับบมจ.บีทีเอส กรุ๊ปฯ โดยได้รับการออกแบบจากบริษัทชั้นนำระดับโลก หนึ่งในนั้น คือ yoo studio (ยู สตูดิโอ) จากประเทศอังกฤษ รวมทั้งการตกแต่งภายในโดย Philippe Starck (ฟิลิปป์ สตาร์ค) เพื่อสร้างผลงานระดับ Iconic Piece ที่มีเอกลักษณ์และคุณภาพมาตรฐานระดับโลก บนสุดยอดทำเลแห่งการพักอาศัยใจกลางทองหล่อ ภายใต้แนวความคิด “Industrial Heritage" ผสมผสานไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์กับการออกแบบโดยใช้วัสดุที่หรูหราและ แปลกใหม่ พร้อมรังสรรค์ Sales Gallery ในรูปแบบ Material Exhibition สร้างแรงบันดาลใจแห่งการพักอาศัยอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในเมืองไทย เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในงานดีไซน์
โครงการดังกล่าวมีมูลค่า 4,000 ล้านบาท และมีทั้งหมด 148 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้ว 65% ของโครงการ และตั้งเป้าที่จะขายได้ทั้งหมด 100% ภายใน 3 ปี (63) โดยบริษัทฯมีแผนที่จะไปเสนอขายโครงการให้กับผู้สนใจในประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง
"ปัจจุบันโครงการในซอยทองหล่อมีเพียง 5 โครงการ มียูนิตรวมเพียง 400-500 ยูนิต ซึ่งมองว่า supply ยังไม่มากนัก โดยโครงการเรามีราคาขายที่ 3.7 แสนล้านบาท และเชื่อว่าคนรุ่นใหม่ที่มีความชอบในโครงการที่ออกมาในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง และเชื่อว่าโครงการของเราก็ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นยุคใหม่ได้ ซึ่งเราก็เชื่อว่าจะขายหมดในไม่ช้า"นายอุทัย กล่าว
“กลยุทธ์การตลาดแบบ Experience Marketing เป็นความมุ่งมั่นของเราในการสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตในรูปแบบที่ล้ำสมัยและเข้าใจผู้บริโภคอย่างไม่หยุดนิ่ง สะท้อนวิสัยทัศน์ “Journey for Tomorrow" ขององค์กรที่ต้องการยกระดับแบรนด์แสนสิริสู่เวทีโลก ผมมั่นใจว่า แสนสิริจะก้าวสู่การเป็นทั้งแบรนด์ในใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในประเทศไทย และแบรนด์ระดับอินเตอร์ที่เป็น top of mind สำหรับลูกค้าต่างชาติ ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่แม้จะยังไม่มาเป็นลูกค้าของเราในวันนี้ แต่จะก้าวมาเป็นลูกค้าของเราในอนาคตอย่างแน่นอน" นายอุทัย กล่าว
นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทฯ ยังมีแผนระยะยาวในการเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมงานกับดีไซเนอร์ระดับโลกในการสร้างสรรค์โปรเจ็คท์ใหม่ๆ หรือการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆที่เชี่ยวชาญด้านดีไซน์ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี และในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ แสนสิริจะนำเอางานศิลปะอินสตอลเลชั่นต่างๆภายในงานไปจัดแสดงในคอมมูนิตี้มอลล์ ต่างๆในทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ออกมาแฮงเอาท์ เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้สร้างประสบการณ์ใหม่ๆร่วมกันไปกับแบรนด์