โบรกเกอร์หลายรายแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (ROBINS) หลังกำไร Q4/59 เติบโตเหนือจินตนาการ เน้นพัฒนารูปแบบสาขาเพิ่มกำไร-ฐานรายได้ค่าเช่า เพื่อผลักดันกำไรเติบโตต่อเนื่อง หลังจากปี 59 กำไรออกมาดีกว่าคาด เติบโตแข็งแกร่งถึง 30.7% จากปีก่อน หลังมีการขยายสาขา พร้อมคาดปี 60 ยังเติบโตจากการขยายสาขา พร้อมปรับ Margin ให้ดีขึ้นจาก Product Mix มองราคาสินค้าโภคภัณฑ์หนุนการจับจ่ายใช้สอย กำไรเติบโตได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ROBINS คาดจะมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 2-3 สาขาในปี 60 แถมได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานของสาขาที่เปิดให้บริการในปี 59 ทั้ง 2 สาขาที่จะเริ่มรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้ ช่วยหนุนผลการดำเนินงานภารวมทั้งปี และคาดแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยดีขึ้นมาที่ 25.20% จากสัดส่วนยอดขายสินค้า House Brand ที่จะเพิ่มมากขึ้นตามแผนงานของบริษัท
ราคาหุ้น ROBINS ล่าสุดบ่ายนี้อยู่ที่ 61.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า ขณะที่ SET Index เพิ่มขึ้น 0.20%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.ฟิลลิปฯ ซื้อ 74 บล.บัวหลวง ซื้อ 72 บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ซื้อ 79 บล.กรุงศรี ซื้อ 65
สำหรับปีนี้คาดว่าผลการดำเนินงานยังเติบโตได้ดีที่ราว 7.7% มาอยู่ที่ 3,032.05 ล้านบาท โดยคาดจะมีรายได้รวม 32,824.73 ล้านบาท เติบโต 8.74% จากปีก่อน เนื่องจากคาดการณ์จะมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 2-3 สาขา ในปี 60 และจากผลการดำเนินงานของสาขาที่เปิดให้บริการในปี 59 ทั้ง 2 สาขา จะสามารถรับรู้รายได้เต็มปี นอกจากนี้ คาดว่าบริษัทจะมีแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยดีขึ้นจากปี 59 มาอยู่ที่ 25.20% จากสัดส่วนยอดขายสินค้า House Brand ที่จะเพิ่มมากขึ้นตามแผนของบริษัท
"มองภาพในระยะยาวยังคงเห็นการเติบโตของผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากทั้งการขยายสาขาที่ยังสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง และจาก สาขาเดิมที่คาดจะดีขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยผลักดันผลการดำเนินงานได้อย่างดี"นางสาวศศิกร กล่าว
ขณะที่ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กำไรของ ROBINS ในไตรมาส 4/59 ยังทำได้ดีถือว่าเติบโตเหนือจินตนาการ และถือว่าเติบโตได้ดีท่ามกลางปัจจัยลบช่วงปลายปี รวมทั้งฐานรายได้ค่าเช่าดันกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยมีการวางแผนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และปรับรูปแบบร้านค้าและการจัดวางเพื่อดึงดูดยอดขายและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
นอกจากนี้ การปรับรูปแบบการทำโปรโมชั่น การพัฒนารูปแบบสาขาและการเพิ่มสัดส่วนของการขายสินค้า margin สูงที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1/59 ที่ผ่านมาก็ช่วยทำให้อัตราการกำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นกว่า 0.5% ผลักดันให้กำไรเติบโตเป็นไปตามระดับที่คาดการณ์ไว้ได้ รวมถึงมองว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์จากกำลังซื้อในประเทศที่คาดจะฟื้นตัวตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นที่มีผลต่อรายได้เกษตรกรในปีนี้
นอกจากนี้ มอง ROBINS เป็นบริษัทค้าปลีกที่มีความน่าสนใจจากการริเริ่มพัฒนาช่องทางในการเติบโตอื่นอย่างเช่นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน การลดการทำโปรโมชั่น การวางแผนพัฒนารูปแบบสาขาและการจัดวางสินค้าแบบใหม่ ซึ่งจะช่วยดึงยอดขายและพัฒนาอัตราความสามารถในการทำกำไรของ ROBINS ได้ในระยะยาว โดยบริษัทได้เริ่มปรับรูปแบบร้านค้าภายใต้แนวคิด 1 Below ซึ่งเป็นการรวมสินค้าหลายประเภทโดยจัดหมวดหมู่ตาม life style ของผู้ที่มาเดินห้างซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง (เริ่มในบางสาขา) สามารถเพิ่มยอดขายได้
ขณะที่การออกรูปแบบการจัดวางสินค้าแบบใหม่ๆ เช่น 365 Great Value ที่เป็นการขายสินค้าราคาคุ้มค่าราคาเดียวตลอดปี ก็ถือว่ามีความน่าสนใจเนื่องจากสามารถทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้โดยที่ไม่รอโปรโมชั่น และทำให้ ROBINS สามารถลดค่าใช้จ่ายในการทำโปรโมชั่นได้ นอกจากนี้มองแผนการเพิ่มสัดส่วนยอดขาย margin สูงจะช่วยพัฒนาให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจะดีขึ้นในทุกๆปี
พร้อมทั้งปรับประมาณการกำไรปีนี้ที่คาดเป็น 3,022 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% จากปีก่อน โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นตามการปรับสมมติฐานความสามารถในการทำกำไรขึ้น โดยมองแนวโน้มรายได้เกษตรกรที่จะเพิ่มขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในปัจจุบันอย่าง ราคาน้ำตาล ส่งผลต่อราคาอ้อย รวมถึง ราคายางและราคาปาล์ม จะส่งผลบวกทำให้ยอดขายสาขาเดิมของ ROBINS ที่กระจายอยู่ตามต่างจังหวัดสามารถกลับมาเติบโตใกล้เคียงกับระดับ GDP ได้ นอกจากนี้ฐานรายได้ค่าเช่าที่เติบโตตามการขยายสาขาจะช่วยทำให้ฐานกำไรของ ROBINS มีการเติบโตในทุกๆปีได้
ส่วน บล.กรุงศรี ให้ความเห็นว่า ROBINS พื้นฐานดีแผนงานระยะกลางไม่เปลี่ยนแปลง โดยได้มีการอัพเดทแนวโน้มปี60 กับผู้บริหาร ROBINS โดยบริษัทยังคงใช้กลยุทธ์สร้างการเติบโตจากการเพิ่ม margin และการเปิดห้างใหม่เพื่อเพิ่มยอดขาย และรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ในปี 60-61 โดยบริษัทมีแผนจะเปิดห้างใหม่ 3 แห่งในปี 60 โดยจะเป็นศูนย์การค้าแบบ lifestyle จำนวน 2 แห่งและห้างสรรพสินค้าอีก 1 แห่ง จะช่วยให้พื้นที่ปล่อยเช่าเพิ่มขึ้น 8% เป็น 4 แสนตารางเมตร
ทั้งนี้ ROBINS คาดว่า ยอดขายสาขาเดิมจะขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3% ในปี 60 ใกล้เคียงกับประมาณการที่ 4% นอกจากนี้ ROBINS ยังมีแผนที่จะเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น โดยใช้แผนโปรโมชั่นทางการตลาดแนวใหม่ และเพิ่มสัดส่วนสินค้า house brand และแบรนด์อินเตอร์ ซึ่งมี margin สูง อย่างไรก็ตาม ยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ในช่วงที่การบริโภคยังคงอ่อนแอ ดังนั้น จึงคงสมมติฐาน อัตรากำไรขั้นต้น ปี 60 ไว้ที่ 25%
"หุ้น ROBINS ซื้อขายอยู่ที่ P/E ปี 60 ที่ 22 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มซึ่งอยู่ที่ 27 เท่า ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ากำไรของบริษัทน่าจะโตได้ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 17% ราคาเป้าหมายของเราคำนวณโดยวิธี DCF โดยใช้ WACC ที่ 9.5% และ LTG ที่ 3% คิดเป็น P/E ปี 60 ที่ 24 เท่า เราเชื่อว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดจากราคาได้ภาคเกษตรที่สูงขึ้น และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อ ROBINS "บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุ