นางวนิดา บุญภิรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายสายงานการเงินและบัญชี บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในมือและอยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จ ทำให้ในปีนี้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่จะเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มขึ้นเป็น 1,500 เมกะวัตต์ (MW) จากระดับ 1,381 เมกะวัตต์ (MW) ในปัจจุบัน
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ที่จะเดินเครื่องผลิตในปีนี้ ได้แก่ โรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน พาวเวอร์ (IRPC-CP) ระยะที่ 2 คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/60 ,โรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น 2 จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในไตรมาส 3/60 และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อิชิโนเซกิ โซลาร์ พาวเวอร์ ในญี่ปุ่น คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/60 นอกจากนี้ยังจะรับรู้รายได้เต็มปีสำหรับโครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ ขนาด 5 เมกะวัตต์ที่เริ่มเดินเครื่องเมื่อปลายปีที่แล้วด้วย
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาทบทวนแผนการเข้าลงทุนในต่างประเทศ จากเดิมที่มีการลงทุนในประเทศเมียนมา ลาว ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย โดยต้องมาทบทวนว่าการลงทุนในประเทศเหล่านี้ยังมีความเหมาะสมและมีผลตอบแทนที่หน้าพึงพอใจอยู่หรือไม่ เนื่องจากแนวโน้มของพลังงานมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป
"เราหันมาทบทวนแผนการขยายงานเพิ่มใน 4 ประเทศที่เราได้ลงทุนไปก่อนหน้านี้ เนื่องด้วยการแข่งขันที่สูง และ trend การใช้พลังงานที่เริ่มเปลี่ยนไป รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะนำเข้ามาใช้ในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้า จึงต้องมาดูถึงผลตอบแทน และการลงทุนนั้นมีความเหมาะสมมากน้อยเพียงได หรืออาจจะเป็นการไปลงทุนประเทศอื่น ๆ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่อย่างไรก็ตามเราก็เชื่อว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งปีแรก"นางวนิดา กล่าว
นางวนิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทเตรียมที่จะขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาออกหุ้นกู้ในระยะเวลา 5 ปี (ปี 60-64) ในวงเงิน 10,000 ล้านบาท รองรับการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวให้กับ GPSC ที่ระดับ A+ (tha)