(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตลาดตปท. ราคาน้ำมันร่วงกดหุ้นพลังงาน,จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 3, 2017 09:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสย่อตัวลง จากปัจจัยภายนอกที่ตลาดหุ้นต่างประเทศอยู่ในช่วงปรับฐาน โดยตลาดหุ้นสหรัฐมีแรงขายทำกำไรออกมา หลังจากมีกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้ออกมาส่งสัญญาณดังกล่าว อีกทั้งตลาดยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่จะมีขึ้นในคืนนี้ด้วย ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ก็อยู่ในภาวะที่ซึมตัวลงเช่นกัน
นอกจากนี้การที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงเมื่อคืนนี้ อาจจะกดดันต่อการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีมาร์เก็ตแคปค่อนข้างมากต่อตลาดหุ้นไทยด้วย อีกทั้งการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทย ก็ยังไม่นิ่ง โดยยังคงมีแรงซื้อสลับขายออกมาต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตลาดน่าจะยังได้ปัจจัยหนุนจากการซื้อสุทธิต่อเนื่องของนักลงทุนสถาบันในประเทศ รวมถึงยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์ และวันนี้อาจมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มเดินเรือด้วย หลังจากที่ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปรับตัวขึ้นกว่า 3% เมื่อวานนี้ ก็น่าจะช่วยประคองภาพรวมการลงทุนได้บ้าง

พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,562 และ 1,558 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,575 และ 1,580 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,002.97 จุด ร่วงลง 112.58 จุด (-0.53%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,861.22 จุด ลดลง 42.81 จุด (-0.73%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,381.92 จุด ลดลง 14.04 จุด (-0.59%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 13.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 10.83 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 109.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 19.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 11.73 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 15.28 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.14 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 มี.ค.60) 1,569.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด (+0.18%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 515.42 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 มี.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 มี.ค.60) ปิดที่ 52.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 2.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 มี.ค.60) ที่ 4.49 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.04 อ่อนค่าจากดอลล์แข็งหลังนลท.มั่นใจเฟดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
  • ในวันนี้คณะกรรมการ รฟท.จะประชุมแก้ไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 5 สัญญา มูลค่า 1.36 แสนล้านบาท และจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง หรือซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อ จัดจ้าง ที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบในการประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ทันที เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องการให้เร่งแก้ปัญหาเพื่อให้โครงการก่อสร้างเกิดขึ้นได้เร็ว
  • รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ว่า มอบหมายให้การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) ให้ทันสมัยมากขึ้น จากปัจจุบันกำหนดเพดานสูงสุดที่ 13 บาท/กิโลเมตร (กม.) ใช้ร่วมกันทุกประเภท
  • รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า มาตรการพิเศษที่รัฐบาลกำลังนำออกมาใช้ในการแก้ไขปัญหาการออกสิทธิบัตรล่าช้า จะช่วยแก้ปัญหาคำขอรับสิทธิบัตรที่ค้างการพิจารณาอยู่ในระบบ ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 3.6 หมื่นคำขอ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีก 2-3 ปีเพื่อสะสางคำขอทั้งหมด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BANPU (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 25.15 บาท คาดกำไรปี 2560 ที่ 9 พันล้านบาท +438%YoY จากราคาถ่านหินที่ปรับตัวขึ้น โดยบริษัทยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายถ่านหินราว 50% ของกำลังการผลิตในปี 60 ซึ่งคาดว่าราคาขายจะถูกปรับลด 15% จากราคาถ่านหินเฉลี่ยในปี 60 ที่ 77 ดอลลาร์ต่อตัน ทั้งนี้ราคาถ่านหินเฉลี่ยปี 60 คาดว่าจะปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 77 ดอลลาร์ หลังจีนเตรียมปรับลดวันทำงานของเหมืองถ่านหินลงเหลือ 276 วันในช่วงเดือนมี.ค.-ส.ค. เพื่อลดอุปทานลงหลังจากผ่านช่วงที่มีความต้องการใช้สูงสุดไปแล้ว นอกจากนี้จีนยังมีแผนปิดเหมือนถ่านหินกว่า 500 แห่งในปีนี้เพื่อเป็นการลดอุปทานและลดมลภาวะในประเทศ ขณะที่คาดว่าต้นทุนการผลิตจะปรับตัวขึ้น 15% สู่ 38-51 ดอลลาร์ต่อตันจากการขุดถ่านหินในพื้นที่ลึกขึ้นทำให้อัตราส่วนดินต่อแร่ (stripping ratio) เพิ่มจาก 8:1 เป็น 13:1
  • JWD (ยูโอบี เคย์เฮียน) ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 3/59 และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้การพ้นธงเหลือง IUU จะช่วยเร่งการฟื้นตัวของธุรกิจห้องเย็น และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
  • VNG (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 16.30 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q60 ชะลอตัวชั่วคราว จากผลกระทบเหตุการณ์น้ำท่วมที่ภาคใต้ แต่คาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาโดดเด่นใน 2Q60 พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2560-2561 เติบโตดีต่อเนื่อง จากแผนขยายกำลังการผลิตแผ่นไม้ MDF, Particle และ Laminated Flooring ขณะที่อาจมี upside เพิ่มในอนาคตจากแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งยังคงรอความชัดเจนของภาครัฐ อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยกดดันระยะสั้นจากแนวโน้มกำไรสุทธิ 1Q60 ที่คาดว่าจะชะลอตัว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ