นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงิน บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 60 และ ปี 61 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากปีนี้ได้ลงทุนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 3 โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 290 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในไตรมาส 4 ปีนี้
ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) กำลังการผลิตติดตั้ง 70 MW โรงไฟฟ้าถ่านหินและพลังงานเชื้อเพลิงขยะ กำลังการผลิตติดตั้ง 70 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน กำลังการผลิตติดตั้ง 150 MW ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะส่งผลให้ TPIPP มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง รวมทั้งสิ้น 440 MW จากโรงไฟฟ้าทั้งหมด 7 โรง และจากการปรับปรุงและเพิ่มเติมหม้อผลิตไอน้ำ เพื่อเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทให้สูงขึ้นไปอีก
สำหรับปีที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จในการผลักดันการเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยทำกำไรสุทธิ 1,824.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 270% จากปี 58 และมีรายได้รวม 4,433.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.62% จากปี 58 เป็นผลจากการรับรู้รายได้จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ของโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ จำนวน 2 โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 80 MW แบ่งเป็น กำลังการผลิตติดตั้ง 20 MW และ 60 MW โดยขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในช่วงปี 59 ได้เต็มปี หลังจากที่โรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง ได้เริ่ม COD ระหว่างปี 2558
ทั้งนี้ เมื่อรวมกับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งอีก 2 โรง กำลังการผลิตติดตั้ง 40 MW และ 30 MW ที่จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ บมจ. ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) อยู่แล้วก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ปี 59 เป็นปีที่บริษัทสามารถเก็บเกี่ยวรายได้จากการดำเนินการโรงไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทั้ง 4 โรง ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 150 MW ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
“ความสำเร็จของผลการดำเนินงานในปี 59 มาจากการที่เราสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจการจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งจากกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ของ บมจ.ทีพีไอ โพลีน ซึ่งทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านกำไรสุทธิและรายได้รวมมีความโดดเด่น สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามแผนงานที่วางไว้" นายภัคพล กล่าว