นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้จากการขายและบริการปี 60 จะเติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.93 พันล้านบาท ด้วยกลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์ เน้นสินค้านวัตกรรมใหม่ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในงานโครงการ ที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ตามการขยายตัวของธุรกิจภาคเอกชนและงานก่อสร้าง
ปัจจุบันมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ราว 900 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และอยู่ระหว่างเข้าประมูลโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯยังเข้าบุกตลาดในกลุ่มประชาคมเศรษฐกจิอาเซียน (AEC) โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งเป็นประเทศที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯคาดว่าภายใน 2 ปี (ปี 60-61) สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 12% จากปี 59 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 7%
ทั้งนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างดำเนินการจดทะเบียนเพื่อที่จัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศเวียดนามคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 2/60 ซึ่งเป็นการลงทุนเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ เวียดนาม เพื่อเปิดสำนักงานโชว์รูมสินค้า คลังสินค้า และโรงงานผลิต รุกตลาดเวียดนามโดยเฉพาะ หลังเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ รวมทั้ง ลูกค้าของบริษัทฯที่เข้าไปลงทุนในประเทศดังกล่าว อาทิ กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มซีพี และกลุ่มปูนซิเมนต์ไทย ที่จะสามารถซื้อสินค้าและใช้บริการของบริษัทฯได้อย่างครบวงจร โดยจะใช้งบลงทุนราว 10 ล้านบาท ในการตกแต่งสำนักงาน และซื้อเครื่องจักรบางส่วน
สำหรับตลาดในเมียนมา ยังมีการเติบโตที่ดีและเป็นตลาดหลักของบริษัทฯแต่คาดว่าหลังจากที่บริษัทย่อยในเวียดนามเสร็จสิ้น จะสามารถสร้างรายได้ขึ้นมาใกล้เคียงกับเมียนมาได้ ส่วนลูกค้าในประเทศลาวและกัมพูชา ยังมีการส่งออกสินค้าไปอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีการลงทุนใด ๆ เพิ่มเติมนอกจากนี้บริษัทฯเตรียมเปิดสำนักงานตัวแทนขายในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียเพิ่มเติมในปีนี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างยื่นขอจดทะเบียน
"การรุกตลาดเวียดนามครั้งนี้ เป็นโมเดลในลักษณะที่ใกล้เคียงกับเมียนมา แต่เป็นการขยายที่ใหญ่กว่า เนื่องจากเมียนมาเป็นเพียงการจัดตั้งสำนักงาน แต่ไม่มีโรงงาน โดยเรามองว่าประเทศเวียดนามกำลังขยายตัว และมีความต้องการใช้สินค้าของบริษัทฯเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย จึงมองว่ามีความคุ้มค่าที่จะลงทุน และมั่นใจที่จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจแสงสว่างรายใหญ่ของ AEC"นายปกรณ์ กล่าว