KTBST มอง SET สัปดาห์นี้แนวโน้มอ่อนตัวจากคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย ให้กรอบ 1,550 -1,580 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 6, 2017 14:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินทิศทางตลาดไทยในสัปดาห์นี้ (6-10 มี.ค.) ว่า จากที่ตลาดผ่านการติดตามการแถลงนโยบายเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสของประธานาธิบดีสหรัฐฯมาแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่หาเสียงไว้ นั่นหมายความประธานาธิบดีสหรัฐฯจะผลักดันให้มีการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญ 2 นโยบายคือ ลดภาษีและลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค ผลที่จะตามมา คือเศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวมากขึ้น ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯต่างขึ้นมารอข่าวบวกนี้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ตลาดหุ้นอื่นๆ กลับมาความกังวลต่อโอกาสในการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มี.ค.นี้ จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่เชื่อว่าโอกาสจะขึ้นดอกเบี้ยมีเพียง 30% โดยสิ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ความน่าจะเป็นปรับขึนไปถึงระดับ 90% แล้ว ผลที่จะส่งต่อมาถึงตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ คือ ความกังวลและอาจมีการปรับพอร์ตเพื่อรับการปรับดอกเบี้ยของ Fed

"ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (6-10 มี.ค.) ว่าดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลง จากแนวโน้มที่เฟดจะปรับดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.มีมากขึ้นจะทำให้นักลงทุนต่างประเทศปรับพอร์ตรับดอกเบี้ยขึ้น ขณะที่ตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆ หลังผ่านช่วงของการรายงานงบการเงินไปแล้ว ผลบวกจากนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯถูกรับรู้กันมาระดับหนึ่งแล้วและไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนจากที่รู้กันมาก่อนหน้านี้ ขณะที่ การอ่อนค่าของดอลล่าร์สวนทางกับดอกเบี้ยสหรัฐฯ อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่านักลงทุนมีความกังวลในตลาด คาดกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX สัปดาห์นี้ที่ 1,550-1,580 จุด"

ส่วนปัจจัยในประเทศ เนื่องจากผ่านช่วงการส่งงบการเงินไปแล้ว แรงเก็งกำไรในเรื่องงบน้อยลง หุ้นจะทยอยขึ้น “XD" หลังขึ้นเครื่องหมายไปแล้ว อาจเห็นการขายหุ้นเหล่านี้ออกมา (มีผลมากในหุ้นที่ให้ Dividend Yield สูงเกิน 4% และจ่ายเงินปันผลปีละหนึ่งครั้ง) สำหรับค่าดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่า ส่งผลให้ค่าเงินบาทยังถึงว่าแข็งค่ามาก ล่าสุด 35.00 บาท/ดอลลาร์ หากเงินบาทแข็งค่ากว่าเงินสกุลเอเชียสกุลอื่น จะเป็นลบต่อตลาดและหุ้นที่มีรายได้เป็นเงินดอลลาร์

ดังนั้น แม้นักลงทุนหรือตลาดหุ้นไทย จะมีการพักฐานหรือชะลอตัวมาระยะหนึ่งแล้ว แต่อาจยังมีความเสี่ยงขาลงอยู่บ้างจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศและตลาดขาดปัจจัยหนุน กลยุทธ์เรามองว่าชะลอการลงทุน เลือกขายหุ้นที่เสียงต่อการขายของนักลงทุนต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม หุ้นในบางประเภท คือหุ้นที่มีปัจจัยบวก ทั้งจากนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ หุ้นที่แนวโน้มผลการดำเนินงานยังดีและอิงกับภาวะเศรษฐกิจ และมีความเสี่ยงไม่มากนัก อาจยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนในการเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ BR , APURE , ITEL , SUSCO , PIMO , MAJOR


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ