นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชียกรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ราว 100-200 ล้านบาท เพื่อที่จะขยายพื้นที่จัดเก็บถ่านหินในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 5 แสนตัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 5 แสนตัน โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/60 โดยปัจจุบันความต้องการใช้ถ่านหินในประเทศยังเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยความต้องการใช้ถ่านหินจะเพิ่มขึ้นในปริมาณมากๆนั้นต้องมาจากการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินถ่านหิน ซึ่งต้องจับตาดูว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งหากเปิดได้จะทำให้ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต จากปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 21 ล้านตัน
นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมสรุปรูปแบบการลงทุน เพื่อที่จะเพิ่มยอดขายในประเทศเวียดนาม หลังความต้องการใช้ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามการเปิดโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ๆ โดยเบื้องต้นบริษัทมองรูปแบบการขยายในจีน แต่อย่างไรก็ตามยังต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัท เอจีอี โกลบอล เทรด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างบริษัท Fuzhou Xindian Fuel Co.,Ltd ในจีน จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อรองรับการขยายการลงทุนธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนโดยจะมีสัดส่วนการถือหุ้นร่วมกันอยู่ที่ 50:50 และมีทุนจดทะเบียน 20 ล้านหยวน หรือประมาณ 104 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าการจัดตั้งบริษัทจะแล้วเสร็จได้ในไตรมาส 2/2560
“พาร์ทเนอร์ของเราเป็นผู้ประกอบการ ธุรกิจจำหน่ายถ่านหินนำเข้าติด 1 ใน 15 ของประเทศจีนที่มีประสบการณ์การดำเนินธุรกิจมามากกว่า 10 ปี ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจรวมกันได้ในอนาคต"นายพนม กล่าว
นายพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความร่วมมือทางธุรกิจกับจีนในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพ และการขยายตลาดการส่งออกถ่านหินไปยังประเทศจีน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจมากขึ้น โดยทาง AGE จะใช้ความเชี่ยวชาญในการจัดหาถ่านหินจากประเทศอินโดนิเซีย และความมั่นคงทางด้านการเงิน ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญตลาดถ่านหินในประเทศจีน โดย AGE เริ่มขายถ่านหินไปยังประเทศจีนตั้งแต่ปี 54 และมียอดขายในตลาดจีนราว 4 แสนตันในปี 59
บริษัทตั้งเป้ายอดขายในประเทศจีนไว้ประมาณ 50,000 ตัน/เดือน หลังจากสามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในจีน โดยจะเป็นส่วนเพิ่มจากเป้าปริมาณยอดขายถ่านหินในปี 60 ที่วางแผนไว้ว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 25-30% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่ทำได้ 2.36 ล้านตัน เนื่องจากบริษัทเดินเกมรุก ในการบุกตลาดส่งออกไปในประเทศจีน และ เวียดนาม เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งยังได้ศึกษาตลาดส่งออกในต่างประเทศแห่งใหม่ เพิ่มขึ้นด้วย
“ปีนี้ถือเป็นปีที่โดดเด่นของการดำเนินธุรกิจ เพราะมีการร่วมทุนกับพันธมิตรจากจีนที่เสริมศักยภาพปริมาณการขายถ่านหินเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่ายอดขายถ่านหินในจีนอยู่ที่ระดับ 50,000 ตันต่อเดือน ซึ่งเป็นประมาณการที่ยังไม่ได้รวมกับเป้าปริมาณการขายถ่านหินในปี 60 ที่คาดการณ์ไว้โต 25-30% จาก 2.36 ล้านตันในปีก่อน จากแผนขยายตลาดในจีนและเวียดนาม และบริษัทยังตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการให้บริการ คลังสินค้า ท่าเรือ และการขนส่งทางน้ำ เพิ่มเติมอีกด้วย"นายพนม กล่าว