นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 มี.ค.) ยังมีทิศทางปรับตัวลงต่อเนื่อง จากปัจจัยความกังวลเกี่ยวกับการจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และมีความเสี่ยงจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงกดดันต่อตลาด
โดยการที่ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯทยอยสูงขึ้นตามลำดับ สอดคล้องกับโอกาสและความเชื่อว่า เฟด จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) สัปดาห์หน้า (14-15 มี.ค.) ล่าสุด Dollar Index และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ของรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ที่ 101.76 จุด และ 3.1164% ตามลำดับ
การตอบรับต่อโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่มากขึ้น ตลาดหุ้นเอเชียมีตัวเลขปะปนทั้ง net buy และ net sell และไม่สูงนัก เป็นลักษณะของ hold เพื่อรอดูทิศทางมากกว่า ยกเว้นตลาดหุ้นไทย ที่มีการขายทั้งหุ้นและพันธบัตรออกมาติดต่อกันเป็นวันที่ 7 แล้ว ยอดรวมทั้งสองตลาดคือ net sell 2.6 หมื่นล้านบาท ทำให้มองว่า แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันต่อตลาดหุ้นไทย และยังมีแนวโน้มที่นักลงทุนกลุ่มนี้จะขายต่อ
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ทรงตัวแถวๆ 51-54 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ล่าสุด คือ 53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ความกังวลต่อการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ เป็นตัวถ่วงราคาน้ำมันไว้ ขณะที่ปัจจัยที่มีผลค่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวม ๆ คือ ความเสี่ยงภายนอก การประชุม FOMC และการแข็งค่าของดอลลาร์ ทำให้มีการชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเหล่านี้ ช่วงสั้น ๆ มองเป็นลบต่อหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
"ปัจจัยในประเทศนั้นนักลงทุนกำลังรอดูข่าวบวกใหม่ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูค่าของเงินบาทว่าจะอ่อนตัวลงได้ขนาดไหน ล่าสุด 35.10 บาท/ดอลลาร์ เราจึงประเมินทิศทางดัชนีฯ ในวันนี้ ว่ายังมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงต่อปัจจัยหลัก ๆ คือ โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน"นายมงคล กล่าว
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน บล.KTBST ประเมินตลาดยังอาจยังมีความเสี่ยงขาลงจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ และความไม่แน่นอนในอีกหลายๆปัจจัย จึงยังแนะนำชะลอการลงทุน ลดการถือหุ้นที่เสียงต่อการขายของนักลงทุนต่างประเทศ รวมทั้งหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หรือเลือกเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หรือหุ้นที่มีลักษณะเป็น Defensive ที่ไม่อิงกับภาวะตลาดมากนัก ในการเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน เช่น PREB , SLP , BLA , EGCO