หุ้น GL ร่วงแรง 15.10% มาอยู่ที่ 40.75 บาท ลดลง 7.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,232.11 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.46 น. โดยเปิดตลาดที่ 46.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 46.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 40.25 บาท
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า หุ้น บมจ.กรุ๊ปลีส (GL) ร่วงแรงต่อเนื่องจากวานนี้ จากความกังวลการปล่อยกู้ข้ามประเทศที่ผู้ตรวจสอบบัญชีให้หมายเหตุไว้ในงบการเงินปี 59 จึงส่งผลกระทบทต่อความเชื่อมั่นในหุ้นกลุ่มลีสซิ่งตัวอื่น ๆ ด้วยทั้ง MTLS SAWAD ที่ราคาปรับลงตาม แต่เชื่อว่าเมื่อนักลงทุนได้รับทราบข้อมูลต่างๆ มากขึ้น ก็คงเข้าใจว่าประเด็นนี้มีผลกระทบต่อ GL เท่านั่น ดังนั้น ระยะต่อไปราคาหุ้นตัวอื่นก็คงฟื้นตัวขึ้น เพราะเห็นการขยายธุรกิจสินเชื่อจริงจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง หนังสือพิมพ์เช้านี้ยังคงตั้งข้อสงสัยกับการปล่อยกู้ข้ามชาติ ซึ่งถูกระบุในหมายเหตุประกอบงบการเงินเกี่ยวกับเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับที่บริษัทฯได้ให้เงินกู้ยืมแก่บริษัทย่อยในสิงคโปร์ไปปล่อยกู้ต่อให้กับบริษัทอื่นสองกลุ่มในเกาะไซปรัสและสิงคโปร์ ซึ่งผู้กู้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทฯด้วยและได้นำหลักทรัพย์ส่วนหนึ่งที่เป็นหุ้นของ GL มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ยืมดังกล่าว อาจเป็นธุรกรรมที่มีวาระซ่อนเร้น
แม้ว่านายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GL ชี้แจงว่า เงินให้กู้ยืมดังกล่าวและดอกเบี้ยค้างรับจำนวน 3,477 ล้านบาท (คิดเป็น 40% ของสินทรัพย์สุทธิรวม ณ วันที่ 31 ธ.ค.59) ผู้กู้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทและได้นำหลักทรัพย์ส่วนหนึ่งที่เป็นหุ้น GL มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมถึงหลักทรัพย์ค้ำประกันอื่น ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ในเกาะไซปรัสและประเทศบราซิล พันธบัตรรัฐบาลไซปรัสและหุ้นในบริษัทอื่นในต่างประเทศ
นายมิทซึจิ กล่าวว่า ผู้กู้ 2 กลุ่มที่อยู่ในสิงคโปร์และไซปรัสเป็นหุ้นส่วนการทำธุรกิจของ GL เป็นเวลายาวนานและมีความน่าเชื่อถือ ส่วนใหญ่เป็นดีลเลอร์รถมอเตอร์ไซค์ เครื่องจักรกลเกษตรแผงโซล่าร์เซลล์และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่น โดยดีลเลอร์เหล่านี้จัดหาสินค้าให้กับผู้กู้รายย่อยระดับรากหญ้าในตลาดต่างๆ ซึ่ง GL ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ และดีลเลอร์เหล่านี้ก็ได้กลายสภาพมาเป็นผู้ถือหุ้นของ GL ด้วย
ทั้งนี้ นายมิทซึจิกล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า สำหรับหุ้นของ GL และหลักทรัพย์อื่นๆ ซึ่งใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ของดีลเลอร์เหล่านี้ ก็มีการตีมูลค่าอย่างยุติธรรมและมีมูลค่ามากกว่ายอดเงินกู้
สำหรับประเด็นข้อกังวลเรื่องการขยายเวลาการชำระคืนเงินกู้นั้น เบื้องแรกเงินกู้สำหรับผู้ประกอบการ SMEs เหล่านี้จะเป็นเงินกู้ระยะสั้น 3 เดือน และโรลโอเวอร์เมื่อครบกำหนด แต่หลังจากที่บริษัทมั่นใจในความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการที่เป็นคู่ค้าเหล่านี้ ก็จะปรับระยะเวลาชำระคืนเงินกู้เป็น 1 ปี โดยสามารถโรลโอเวอร์ต่อไปได้ตามความจำเป็นในการขยายธุรกิจของดีลเลอร์เหล่านี้ ซึ่งทั้งหมดถือเป็นเรื่องปกติในการขยายธุรกิจของ GL โดยสามารถเพิ่มพอร์ตด้วยการขยายสินเชื่อให้กับกลุ่ม SMEs ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทำให้สามารถทำกำไรเพิ่มพูนได้อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยงบการเงินล่าสุดปี 59 โชว์กำไรสุทธิ 1,062 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดโดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 82.34%
ส่วนการบันทึกรายการเงินกู้เหล่านี้ในประเทศสิงคโปร์และไซปรัสนั้น สืบเนื่องจากโครงสร้างภาษีของทั้ง 2 ประเทศที่เอื้อประโยชน์สำหรับการทำธุรกรรมดังกล่าว