(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ฟื้นต่อตามแรงไล่ซื้อกลับท้ายตลาดฯวานนี้ แต่บาทอ่อนยังถ่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 9, 2017 10:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีแรงไล่ซื้อกลับในช่วงท้ายตลาด ซึ่งน่าจะส่งผลต่อมาถึงวันนี้ด้วย ขณะที่มีปัจจัยถ่วงตลาดฯ คือเงินบาทที่อ่อนค่าสุดในภูมิภาคเมื่อวานนี้จากการไหลออกของเงินทุน แต่การที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าก็ส่งผลต่อประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ การที่เงินบาทอ่อนค่ามากกว่าภูมิภาค เป็นผลจากที่มีการซื้อเก็งกำไรเงินบาทไว้มากในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้แข็งค่าขึ้นไปมากกว่าสกุลอื่น เมื่อตีกลับก็จะมากกว่าสกุลอื่นเช่นกัน รวมทั้งผู้นำเข้าและผู้ส่งออกก็เข้าไปเก็งเงินดอลลาร์สหรัฐฯเช่นกัน ขณะที่คาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงกลางเดือนมี.ค.นี้ก็เป็นเหตุผลหนุนให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า แม้ว่าวันศุกร์นี้จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯแต่คงไม่จำเป็นต้องรอแล้ว เพราะน้ำหนักในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตอนนี้สูงไปถึง 100% แล้ว

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,550-1,5960 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,855.73 จุด ลดลง 69.03 จุด (-0.33%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,837.55 จุด เพิ่มขึ้น 3.62 จุด (+0.06%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,362.98 จุด ลดลง 5.41 จุด (-0.23%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 89.03 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.97 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 114.50 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 13.40 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.88 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 9.58 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.33 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 3.54 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 มี.ค.60) 1,551.73 จุด เพิ่มขึ้น 1.86 จุด (+0.12%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 835.22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 มี.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 มี.ค.60) ปิดที่ 50.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.86 ดอลลาร์ หรือ 5.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 มี.ค.60) ที่ 5.76 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.30/31 แนวโน้มอ่อนค่าต่อ มองกรอบ 35.20-35.40 จับตา Flow ไหลออก-ผลประชุม ECB
  • "สมคิด" คิกออฟใช้เงิน 3.5 หมื่นล้านบาทผ่านกองทุนหมู่บ้านดันเศรษฐกิจฐานราก เตรียมเปิดตลาดทั่วไทย ปิ๊งไอเดียสั่งบีโอไอให้สิทธิประโยชน์เอกชนที่ออกไปลงทุนเปิดร้านขายสินค้าเกษตรเมืองนอกเพื่อเพิ่มช่องทางขายสินค้าเกษตรไทย พร้อมผุดโปรเจกต์ใหม่ดันชุมชนเป็นผู้ประกอบการ 4.0 ที่รู้จักทำมาค้าขายผ่านช่องทางสมัยใหม่ "พาณิชย์"คาดตั้งตลาดสำเร็จตามเป้า มีเงินหมุนเวียนปีละกว่า 1.25 แสนล้าน
  • ก.พลังงาน เตรียมปรับแผนพีดีพีใหม่เน้นผลิตไฟจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นสนองนโยบายบิ๊กตู่ พร้อมโดดลงเวทีทำความเข้าใจโรงไฟฟ้าภาคใต้เร็วๆ นี้หลัง "บิ๊กป้อม"สั่งให้ดำเนินการภายใน 1 เดือน ยันกางแผนทั้งหมดให้เห็นว่าภาคใต้ผลิตไฟไม่พอใช้ พลังงานทดแทนเดินหน้าเต็มสูบแล้ว FSRU ใช้แอลเอ็นจีแทน ศึกษาแล้วแต่ยืนยันค่าไฟแพงกว่าถ่านหิน โยนคลังชี้ขาดกรณีค่าไฟช่วยคนจน
  • นายกรัฐมนตรี วางเป้าหมายการทำงานของภาครัฐไทยภายใน 5 ปีต้องยกระดับสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล บูรณาการระหว่างหน่วยงานในการทำงานแบบอัจฉริยะให้บริการโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางและขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม โดยการเชื่อมโยงข้อมูลและการดำเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน นำเทคโนโลยีและอุปกรณ์ดิจิทัลมาสนับสนุนปฏิบัติงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ยกระดับงานบริการภาครัฐให้ตรงกับความต้องการของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขณะที่บุคลากรภาครัฐ ขั้นตอนการทำงาน เทคโนโลยีและกฎระเบียบจะได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกัน
  • รฟม.เผยผลการเจรจาว่าจ้าง บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ให้เข้ามาบริการเดินรถ ส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระนั้น กระทรวงคมนาคมได้ส่งเรื่องไปยังเลขาฯ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ภายในสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์ถัดไป หลังจากนั้นคาดว่าจะลงนามในสัญญาได้ทันที และทางบีอีเอ็มก็พร้อมจะเดินหน้าตามสัญญาได้ทันทีเช่นเดียวกัน
  • 'อุตตม' เตรียมเสนอแผนพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตและหุ่นยนต์ มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท เข้า ครม.ปลาย มี.ค.หนุนผลิตรถยนต์สะอาด ปล่อยมลพิษน้อย ส่งเสริมผลิตแผงวงจรสมองกลจำเป็นต่อโรงงาน ชี้หุ่นยนต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แต่ลงทุนต่ำ เม.ย.ชงเพิ่ม 4 กลุ่ม

*หุ้นเด่นวันนี้

  • GL (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 72 บาท มองว่าตลาดเข้าใจคลาดเคลื่อนในเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่หลายประเด็น อาทิเช่น 1) ความเห็นของผู้ตรวจสอบบัญชีที่ไม่ได้เป็นการไม่รับรองงบการเงินแต่อย่างใด ส่วนประเด็นการให้ข้อสังเกตในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ก็เป็นการให้ความเห็นอย่างไม่มีเงื่อนไข 2) ในส่วนของการปล่อยกู้ให้บริษัทย่อยในสิงคโปร์นั้น ก็เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งของการทำธุรกิจที่กัมพูชา ภายใต้ข้อจำกัดทางด้านกฎหมายภาษีที่เข้มงวดมากขึ้น 3) ประเด็นความครอบคลุมของหลักประกันเงินกู้ GL ตีมูลค่าหลักประกันอื่นที่ไม่ใช่หลักทรัพย์เพียงแค่ 50% ของมูลค่าตลาด และยังไม่ได้รวมมูลค่าของสต็อกสินค้า และ 4) อัตราดอกเบี้ยของเงินให้กู้ยืมเฉลี่ยที่ 17% ต่อปีนั้น เป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตามมาตรฐานบัญชี ซึ่งมีการรับรวมค่าธรรมเนียมต่างๆเข้าไปด้วย อาทิ Front-end Fee พร้อมมอง GL มีโอกาสเข้าข่ายการซื้อขายด้วยบัญชีเงินสด
  • BBL (เคจีไอ) เป้า 189 บาท ประเมิน Valuation ยังน่าสนใจด้วย PBV 0.92 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 1.1 เท่า ขณะที่รอ Catalyst เรื่องการปลดล๊อกสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างด้าว (Foreign Limit) จากปัจจุบัน 25% (เทียบกับแบงก์ใหญ่รายอื่นอาทิ SCB และ KBANK Foreign Limit ปัจจุบันอยู่ที่ 45.81% และ 48.98% ตามลำดับ) โดยยังคงแนะนำให้พิจารณาที่แนวราคา 183 บาท หากผ่านได้ ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 190 บาท แต่ในกรณีที่ไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ แนะนำ "ซื้อแนวรับ" 180 บาท และ 177.5 บาท (Stop loss 175 บาท)
  • SCB (ยูโอบี เคย์เฮียน) หุ้น Laggard ในกลุ่มธนาคาร เรามองการตั้งสำรองปี 2560 จะลดลง อันเนื่องจากหนี้ SSI พ้นจาก NPL ขณะที่การปรับโครงสร้างของธุรกิจประกันส่งผลบวกต่อการดำเนินงานรวมถึงการปล่อยกู้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ