นายปรีชา เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม (TKT) มั่นใจว่า ผลประกอบการปีนี้จะกลับมามีกำไรสุทธิอย่างแน่นอน จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนราว 67.54 ล้านบาท เนื่องจากปีที่ผ่านมาบริษัทมีการบริหารจัดการและปรับปรุงแผนกพ่นสีที่สาขาสุวินทวงศ์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนของเสียที่เกิดจากการผลิตจึงช่วยลดต้นทุนลง
นอกจากนี้คาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะฟื้นตัวขึ้นราว 3-5% หรือมียอดผลิตรถยนต์ในประเทศเพิ่มเป็น 2 ล้านคัน หลังจากครบอายุถือครอง 5 ปีในโครงการรถยนต์คันแรก แต่ยังต้องติดตามการฟื้นตัวที่คาดว่าจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงงาน MOTOR EXPO ว่าทิศทางยานยนต์ในประเทศจะเดินไปอย่างไร
ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่ารายได้ปี 60 จะกลับมาเติบโตได้ราว 5-10% จากปีก่อนที่รายได้ลดลงมาอยู่ที่ 1,110.77 ล้านบาท โดยจะเป็นการเติบโตทั้งจากการออกรถรุ่นใหม่ และคำสั่งซื้อในส่วนของรุ่นเดิม โดยปัจจุบันบริษัทฯมีคำสั่งซื้อรอมอบสินค้าอยู่ในมือ (Backlog) ราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีการเจรจากับลูกค้าเพื่อที่เพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่อง
นายปรีชา กล่าวอีกว่า บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จะปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 20% ในช่วงครึ่งปีหลัง จากปีก่อนลดลงไปอยู่ที่ 6.46% ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 30-40 ล้านบาทเพื่อใช้ในการซื้อเครื่องจักรใหม่ทดแทนเครื่องจักรเดิม
"ก่อนหน้านี้เรามีผลประกอบการที่เป็นบวกมาตลอด แต่ปีที่ผ่านมาเราได้รับผลกระทบจากต้นทุนของเสียในโรงพ่นสี ซึ่งเราก็เข้าไปปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นผลให้ปีนี้เรามีผลประกอบการออกมามีกำไรสุทธิแน่นอน นอกจากนี้ยังเป็นปีที่อุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาเติบโตหลังจากโครงการรถคันแรกครบอายุ ซึ่งเราจะค่อยๆขยายไปให้เท่ากับช่วงก่อนหน้าที่เราเคยมียอดขายถึง 1.9 พันล้านบาท และเพิ่มไปถึง 2.2 พันล้านบาทในอนาคต หรือใช้กำลังการผลิตเป็น 80% จากปัจจุบันใช้กำลังผลิตอยู่ที่ 50-60%"นายปรีชา กล่าว