นายประสงค์ อดุลยรัตนนุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง (PCSGH) กล่าวว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะฟื้นตัวขึ้นมาเติบโต แต่อาจจะไม่ถึง 10% จากปีก่อนทำได้ 3,742.05 ล้านบาท โดยมองอุตสาหกรรมยายนต์ปีนี้น่าจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป คาดมียอดการผลิตรถยนต์อยู่ที่ 2 ล้านคัน จากปีก่อนอยู่ที่ 1.9 ล้านคัน เนื่องจากครบกำหนดระยะถือครองโครงการรถยนต์คันแรก 5 ปี ส่งผลทำให้ผูบริโภคเริ่มกลับมาซื้อรถยนต์คันใหม่ และหนี้ครัวเรือนก็ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงราคาสินค้าเกษตรก็ฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมฯน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น และส่งผลดีต่อบริษัท
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ราว 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในระยะ 5-6 ปีจากนี้ ขณะที่มีแผนขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม โดยปีนี้จะเน้นขยายตลาดทวีปยุโรป คาดสัดส่วนรายได้จากการส่งออกน่าจะกลับมาอยู่ในระดับ 5% จากปีก่อนไม่ถึง 1% ขณะเดียวกันบริษัทยังมีสัดส่วนรายได้จากนอกกลุ่มยานยนต์ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เข้ามาเพิ่มในปีนี้ คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ราว 5% และตั้งเป้าจะมีสัดส่วนรายได้ภายใน 5 ปีจะเติบโตเป็น 25%
"ภาพรวมธุรกิจในปี 60 มองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์มีทิศทางที่ดีขึ้น ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จากมาตรการรถยนต์คันแรกที่ครบกำหนด ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้กลับมาซื้อรถมากขึ้น และน่าจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ ส่วนธุรกิจนอกกลุ่มยานยนต์ ก็เริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ราว 5%"นายประสงค์ กล่าว
นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้น่าจะขยับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 19% และอัตรากำไรสุทธิก็น่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14-15% จากปีก่อน 10.21% เป็นผลมาจากบริษัทมีแผนขยายโครงการโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มเติมอีก 2 เมกะวัตต์ เป็น 7 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ราว 28 ล้านบาท/ปี โดย 1 เมกะวัตต์สามารถประหยัดต้นทุนไฟฟ้าประมาณ 4 ล้านบาท
สำหรับงบลงทุนปีนี้วางไว้ที่ 280 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ในโครงการโซลาร์รูฟท็อปที่มีแผนจะขยายเพิ่มอีก 2 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถเริ่มจ่ายไฟฟ้า (COD) ได้ในช่วงไตรมาส 3/60 และ จะใช้เงินลงทุน 60-70 ล้านบาทส่วนที่เหลือในการซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตราว 70% ซึ่งยังเพียงพอที่จะขยายกำลังการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รุ่นใหม่ๆ