(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-ซึมลง ราคาน้ำมันร่วงกดดัน-ขาดปัจจัยใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 13, 2017 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์และซึมลง เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องจนหลุด 49 เหรียญฯ/บาร์เรลไปแล้ว ทำให้เกิดแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์

นอกจากนี้ เชื่อว่าจะยังมีแรงขายหุ้น GL อย่างต่อเนื่องหลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศให้เป็นหลักทรัพย์ที่ต้องใช้เกณฑ์ Cash Balance อีกทั้งในมีหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผลหลายตัว ซึ่งมีผลต่อดัชนี SET ราว 0.75 จุด

ขณะที่ตลาดฯขาดปัจจัยใหม่ ระหว่างรอการประชุมของหลายธนาคารกลางในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประชุม 14-15 มี.ค., ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุม 15-16 มี.ค., ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุม 16 มี.ค. รวมทั้งต้องติดตามการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ในวันที่ 15 มี.ค.นี้ด้วย

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก พร้อมให้แนวรับ 1,530-1,535 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,550 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (10 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,902.98 จุด เพิ่มขึ้น 44.79 จุด (+0.21%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,861.73 จุด เพิ่มขึ้น 22.92 จุด (+0.39%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,372.60 จุด เพิ่มขึ้น 7.73 จุด (+0.33%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 58.87 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.31 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 74.63 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 28.67 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.02 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.69 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.83 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 67.47 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 1.48 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 มี.ค.60) 1,539.91 จุด ลดลง 9.33 จุด (-0.60%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,287.31 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 มี.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (10 มี.ค.60) ปิดที่ 48.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 79 เซนต์ หรือ 1.60%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 มี.ค.60) ที่ 5.85 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.32 คาดพักฐานรอผลประชุม FOMC มองกรอบวันนี้ 35.20-35.50
  • "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2560 ได้เห็นชอบแผนพัฒนาอุตสาหกรรมอากาศยาน เพื่อผลักดันไทยให้เป็นฮับสายการบินในภูมิภาค ในสัปดาห์นี้กระทรวงอุตสาหกรรมจะเสนอรายชื่อคณะกรรมการนโยบายอุตสาหกรรมการบินให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้ง
  • นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า คาดการณ์ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีก) ของปี 2560 จะอยู่ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. โดยคาดว่าพีกสูงสุดจะ อยู่ที่ 30,086 เมกะวัตต์ ขยายตัว 1.6% จากปีก่อนที่ระดับ 29,618 เมกะวัตต์
  • เมื่อเร็วๆ นี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) ประกอบด้วย คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กระทรวงอุตสาหกรรมและกรมสรรพสามิต เพื่อกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดแพ็กเกจมาตรการ สนับสนุนรวมเป็นชุดเดียวกัน และเตรียมจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในเดือน มี.ค.นี้
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (นันแบงก์) เดือน ม.ค. 2560 ว่า จำนวนบัญชีผู้ใช้สินเชื่อรวมทั้งระบบลดลงจากเดือนก่อนหน้าถึง 1.02 ล้านบัญชี หรือ 7.5% จาก 13.7 ล้านบัญชี เหลือ 12.7 ล้านบัญชี โดยลดลงจากบัญชีของนันแบงก์ 1 ล้านบัญชี และธนาคารพาณิชย์ลดลง 2.4 หมื่นล้านบัญชี ขณะที่ยอดสินเชื่อรวมลดลง 5,951 ล้านบาท หรือ 1.8% จาก 3.38 แสนล้านบาท เหลือ 3.32 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่ 4,505 ล้านบาท ลดลงจากยอดสินเชื่อของนันแบงก์
  • กรมสรรพสามิตตั้งเป้าการเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2561 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค. 2560 นี้ สูงถึง 6 แสนล้านบาท ขยายตัว 8.1% เทียบกับปีงบประมาณ 2560 ที่คาดว่าจะจัดเก็บได้ 5.55 แสนล้านบาท ถึงแม้ว่าการเก็บภาษีในช่วง 4 เดือนแรกจะต่ำกว่าเป้าหมาย 2,000 ล้านบาท แต่แผนการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บภาษีจะทำให้เก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น 5-10% ทำให้การเก็บภาษีปีงบประมาณ 2560 ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • FN (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 10.20 บาท เปิดสาขาใหม่แห่งที่ 9 ที่ อ.หาดใหญ่ ใน เม.ย.นี้ มองบวกเพราะนอกจากจะเป็นการเปิดสาขาใหม่ตามแผนแล้ว ยังทำให้ร้าน Save Now ที่ยังขาดทุนเพราะทำเลที่ตั้งไม่ดีจะไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนอีกต่อไป ส่วนสาขาที่ 10 (สาขาที่ 2 ของปีนี้) จะเปิดใน Q4/60 แนวโน้มกำไรสุทธิใน Q1/60 น่าจะทรงตัวถึงดีขึ้น Q-Q และทำจุดสูงสุดของปีใน Q4/60 ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 60 +43.2% Y-Y เป็น Top pick กลุ่มค้าปลีก
  • KTB (โกลเบล็ก) เป้า 21.60 บาท คาดกำไรสุทธิปี 60 ราว 3.33 หมื่นลบ. +3.3% จากสินเชื่อที่ขยายตัวขึ้น 4-6% ตามทิศทางการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และ SME รวมถึงได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น พร้อมคาดเงินปันผลปี 59 ราว 0.85 บาทต่อหุ้น yield 4.5%
  • AAV (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 7.20 บาท แม้มองธุรกิจการบินแข่งขันสูง แต่ด้วยต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคู่แข่งส่งผลให้ AAV สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ ปรับกำไรขึ้น 28-31% ในปี 60-62 ถ้าพิจารณาในทางเทคนิคอิง Trade Code ราคาหุ้นอยู่ที่ “รอฟื้นตัว" ลุ้นนทดสอบแนวต้าน 6.2-6.25 ระยะสั้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ