นายเกรียงศักดิ์ วาณิชย์นที หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า บริษัทฯ ร่วมทดสอบให้ชิพเซ็ตที่เป็นเทคโนโลยีของควอลคอมม์ที่รองรับเทคโนโลยี LTE-A (LTE Advanced ) บนเครือข่ายของเอไอเอส เพื่อการรองรับในอนาคตที่ไม่มีการประมูลคลื่นความถี่
ขณะเดียวกันจำนวนมือถือที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้โอเปอเรเตอร์ต้องหาทางนำคลื่นที่มีมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากยุค 3G ที่ใช้การรับส่ง 1 ทรานสมิชชัน (1T1R) พอเป็นยุค 4G ก็จะเพิ่มเป็น 2 ทรานสมิชชัน (2T2R) แต่เอไอเอสจะพัฒนาให้รองรับสูงถึง 32 ทรานสมิชชัน (32T32R) ต่อการเชื่อมต่อ ไม่นับรวมกับการทำ Gigabit Mobile Network ที่นำคลื่น 4G มารวมกับ Wi-FI เพิ่มรับ-ส่ง ให้ได้ความเร็ว 1 Gbps ที่จะช่วยเพิ่มความเร็วในการใช้งานเพื่อให้รองรับการทำงานในยุค 5G ที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้
"ที่ผ่านมาเอไอเอสได้มีการลงทุนเครือข่ายเพื่อขยายการให้บริการ 4G ครอบคลุมแล้ว 98% และยังมีการลงทุนต่อเนื่องอีก 4-5 หมื่นล้านบาทเพื่อให้รองรับ 5G"นายเกรียงศักดิ์
ด้านนายสุวิทย์ พฤกษ์วัฒนานนท์ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ บริษัท ควอลคอมม์ อินคอร์ปอเรทเต็ด กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เพื่อให้ทั้ง 2 บริษัทสามารถทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโมบายอีโคซิสเต็มส์ให้กับผู้ใช้งานในประเทศไทย เนื่องจากเอไอเอสมีการลงทุนเครือข่ายสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำ CA, 4x4 MIMO ที่ต้องมีดีไวซ์ที่รองรับ ดังนั้น การทำงานอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้พัฒนาเครือข่ายให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
การที่เอไอเอสลงทุนในการพัฒนาเครือข่ายให้รองรับ LTE-A ไม่ใช่ว่าจะได้รับประโยชน์แต่เครื่องระดับพรีเมียมเพียงอย่างเดียว แต่ในกลุ่มระดับกลางบนที่รองรับการเชื่อมต่อ 2CA ก็จะได้ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อที่รวดเร็วขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ล่าสุด ควอลคอมม์ เพิ่งเปิดตัวชิปเซ็ต Snapdragon 835 รุ่นแรกของโลกที่ใช้ชิปขนาด 10 นาโนเมตร รองรับการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Immersive VR. Connected Cloud Computing, Rich Entertainment, Instant App ที่แต่ละประเภทจะใช้การส่งผ่านข้อมูลปริมาณมหาศาล และชิปเซ็ตนี้จะถูกนำไปใช้กับเครื่องรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
“ภายในปีนี้คาดว่าจะมีสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน LTE-A เข้ามาในตลาดคิดเป็นสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 30% จากเครื่องใหม่ที่เข้ามาจำหน่าย และมีโอกาสที่สมาร์ทโฟนในระดับราคาประมาณ 5-6,000 บาทจะรองรับการใช้งานมากขึ้นด้วย" นายสุวิทย์ กล่าว