ขณะที่ธุรกิจหลักของ TIPCO น่าจะเติบโตได้เพียงเล็กน้อย หลังยังต้องเจอกับการแข่งขันของตลาดน้ำผลไม้ที่อยู่ในระดับสูง แต่ด้วยผลการดำเนินงานของ TASCO ที่กลับมาสดใส น่าจะหนุนกำไรของ TIPCO เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้
นอกจากนี้ นับตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้น TIPCO ปรับขึ้นราว 27.5% นับเป็นการปรับตัวช้ากว่าการปรับตัวขึ้นของหุ้น TASCO ที่ดีดตัวขึ้นราว 46% ทำให้หุ้น TIPCO ยังมีความนี่าสนใจในการลงทุน
ราคาหุ้น TIPCO ปิดที่ 17.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท (+7.98%) ขณะที่หุ้นไทย ปรับขึ้น 0.5%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ซื้อ 20.16 ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 20.10 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 20.40
นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้ปรับประมาณการกำไรของ TIPCO ในปีนี้เพิ่มขึ้น 36% เป็น 1.3 พันล้านบาท หรือเติบโตราว 60% จากปีก่อน เป็นไปตามส่วนได้เสียจาก TASCO ดีขึ้นมากเป็น 1.09 พันล้านบาท หลังราคาขายยางมะตอยต่างประเทศฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และธุรกิจของ TIPCO เองก็อยู่ในเกณฑ์เติบโตเล็กน้อย โดยคาดว่าไม่มีการตั้งด้อยค่าเครื่องจักรแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงที่ภาคใต้ในช่วงต้นปีนี้ที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลให้ผลผลิตสับปะรด หรือโรงงานได้รับความเสียหาย และแม้ธุรกิจน้ำผลไม้แม้จะยังมีการแข่งขันที่สูงเช่นเคย แต่ธุรกิจน้ำแร่ก็ยังไปได้ดีพอสมควร
ทั้งนี้ มองกำไรที่ยังไม่ได้รับรู้จากการถือหุ้น TASCO ในต้นทุนต่ำยังมีอยู่สูงมาก จากงบการเงินสิ้นปี 59 ต้นทุนจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียของ TASCO เป็นเพียง 7.82 บาท/หุ้น ขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันสูงไปถึงกว่า 26 บาทแล้ว จากการประเมินพบว่าหากให้ TIPCO ขายหุ้น TASCO ออกไปทั้งหมดจะได้รับกำไรหลังภาษีถึง 5,456 ล้านบาท หรือ 11.31 บาทต่อ 1 หุ้น TIPCO
"เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ TIPCO ถือว่าราคาหุ้นขณะนี้ยังไปได้ช้ากว่า TASCO มาก (Laggard Play)... ทั้ง ๆ ที่คาดการณ์อัตราเติบโตกำไรปีนี้และปีหน้าอยู่ในเกณฑ์สูงเป็น 60% และ 13% ตามลำดับ"นักวิเคราะห์ กล่าว
นักวิเคราะห์บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า มีมุมมองเป็นบวกมากกว่าเดิมสำหรับผลการดำเนินงานของ TIPCO ในปี 60 โดยปรับประมาณการกำไรขึ้นเป็น 909 ล้านบาท เติบโต 11.7% จากปีก่อน จากการปรับเพิ่มส่วนแบ่งกำไร TASCO ขึ้นมา 15% อยู่ที่ 862.2 ล้านบาท ตามความต้องการซื้อยางมะตอยทยอยฟื้นกลับมาสู่สภาวะปกติ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย จีน และออสเตรเลีย เป็นต้น ขณะที่ราคายางมะตอยปรับตัวขึ้นสูงต่อเนื่อง ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของ TASCO มีความเสี่ยงต่อราคาน้ำมันและราคายางมะตอยที่ผันผวนสูง จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะที่ผลการดำเนินงานหลักของ TlPCO คาดจะอ่อนตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน จากตลาดเครื่องดื่มน้ำผลไม้แข่งขันกันสูง ,ราคาสับปะรดในตลาดค่อนข้างผันผวน แต่ TIPCO ก็มีแผนรับมือต่อความท้าทายดังกล่าว โดยการรุกขยายตลาดและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายลดความผันผวนของต้นทุนโดยการทำ Contract Farming
"แม้ธุรกิจหลักธุรกิจเครื่องดื่มและผลไม้แปรรูป มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากการแข่งขันที่สูง แต่ด้วยผลประกอบการ TASCO ที่กลับมาสดใส คาดหนุนกำไร TlPCO โตได้สวย ทางฝ่ายปรับเพิ่มราคาพื้นฐานปี 60 ขึ้นมาที่ 20.40 บาทต่อหุ้น อิงวิธี SOTP โดยผลการดำเนินงานหลักอิง P/E ที่ 10 เท่า และส่วนแบ่งเงินลงทุนจาก TASCO อิงราคาพื้นฐาน TASCO ที่ 25 บาทต่อหุ้น"นักวิเคราะห์ กล่าว
บทวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุว่า การดำเนินงานของ TIPCO ในปี 60-61 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากผลไม้กระป๋องและน้ำดื่มแร่ธรรมชาติ โดยยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"สำหรับหุ้น TIPCO โดยปรับราคาเหมาะสมใหม่ที่ 20.10 บาท ตามราคาและประมาณการกำไรที่สูงขึ้นตามตลาดของ TASCO