นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิสซิเนสอะไลเม้นท์ (BIZ) กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานใหม่ทั้งโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน 2-4 ราย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2/60 ถึงไตรมาส 3/60
พร้อมกันนั้นยังเข้าเสนองานในกัมพูชาหลังจากปีก่อนได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเครื่องฉายรังสีรักษา (Radiotherapy Products) และผลิตภัณฑ์สำหรับรังสีระยะใกล้ (Brachytherapy Products) และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ โดยอยู่ระหว่างเจรจากับโรงพยาบาลภาครัฐ 1 ราย คาดเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 2/60 หรือไตรมาส 3/60 มูลค่ารวมราว 80-100 ล้านบาท
บริษัทเตรียมขยายฐานลูกค้าในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ จากปัจจุบันลูกค้าหลักคือ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล, และคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ,คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ โรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการ เป็นต้น
นอกจากนั้น ยังมองโอกาสขยายธุรกิจในการจัดตั้งศูนย์รักษาโรคมะเร็ง โดยอยู่ระหว่างเริ่มต้นศึกษาความเป็นไปได้ และรายละเอียดต่างๆ คาดว่าน่าจะเห็นความชัดจนได้ภายใน 3-5 ปีจากนี้ รวมทั้งศึกษาการทำเครื่องมือแพทย์สำหรับผู้สูงอายุอีกด้วย แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในขณะนี้
ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ แต่คาดว่าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะปรับตัวลงลดมาที่ 6-8% ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับอุตสาหกรรมการแพทย์ที่มีการเติบโตราว 7-8% หลังจากปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับงานจำนวนมากส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงถึง 9.45% ในปี 59
ด้านนายวรวิทย์ สีลภูสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินและบัญชี BIZ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องฉายรังสียังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศเพิ่มมากขึ้น แต่เครื่องมือในการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงยังขาดแคลนอยู่อีกมาก ส่งผลให้ความต้องการเครื่องมือดังกล่าวอยู่ในระดับสูง โดยจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งของไทยในปี 63 เพิ่มขึ้นเป็นราว 150,000 ราย จากในปี 58 ที่มีอยู่กว่า 130,000 ราย