นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสวีไอ (SVI) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้จะเติบโตได้ราว 20-25% หรือมาอยู่ที่ 380-400 ล้านดอลลาร์ จากปีก่อนที่อยู่ที่ 309 ล้านดอลลาร์ จากการออกสินค้าใหม่ที่จะสามารถเพิ่มยอดขายในปีนี้ เช่น กลุ่มพลังงานสะอาด กลุ่มยานยนต์ และ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น จากปัจจุบันบริษัทมีสินค้าทั้งสิ้น 47 รายการ ซึ่งสินค้าใหม่จะทดแทนสินค้าเดิมที่มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ที่ต่ำ
บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะลดลงมาอยู่ที่ 6-8% จากปีก่อนอยู่ที่ 12.88% ซึ่งเป็นการกลับมาอยู่ในระดับปกติ เนื่องจากปีก่อนมีการรับรู้กำไรพิเศษจากเงินประกันเหตุการณ์น้ำท่วมและไฟไหม้ ขณะที่บริษัทจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 9-11.2% จากปีก่อนอยู่ที่ 8.78%
นอกจากนี้ หลังจากที่บริษัทฯได้เริ่มดำเนินธุรกิจใหม่อย่างพลังงานสะอาด (Green Energy) ด้วยการเข้าไปรับงานสร้างเสาสูง 125 เมตรในเดนมาร์ค มูลค่าโครงการ 30 ล้านดอลลาร์ คาดจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 3/60 และธุรกิจไฟเบอร์อิเล็คทรอนิกส์ในญี่ปุ่น มูลค่า 4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังปีนี้
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทวางงบลงทุนในปีนี้ราว 600 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานในประเทศไทยราว 250 ล้านบาท รวมทั้งก่อสร้างโรงงานใหม่ในประเทศกัมพูชาและซื้อเครื่องจักร คาดใช้เงินลงทุนราว 250 ล้านบาท คาดว่าจะเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ในเดือน ต.ค.60 ขณะที่ยังมองโอกาสเข้าซื้อกิจการโรงงานในสโลวาเกีย คาดใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านบาท
พร้อมกันนี้บริษัทฯยังอยู่ระหว่างศึกษาขยายตลาดไปยังสหรัฐเพิ่มเติมอีก โดยคาดหวังสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 7% อย่างไรก็ตาม คาดว่าน่าจะเห็นความชัดไจนได้ในปี 61