(เพิ่มเติม) "เดนทัล คอร์ปอเรชั่น"จะขาย IPO 50 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรด mai Q2/60,กำหนดราคาขาย 20 มี.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 16, 2017 12:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เดนทัล คอร์ปอเรชั่น (D) เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น พร้อมคาดเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในไตรมาส 2/60 โดยคาดว่าจะสามารถกำหนดราคาขายหุ้น IPO และวันเข้าซื้อขายหุ้นใน mai ได้ภายหลังจากเซ็นสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ในวันที่ 20 มี.ค.นี้

สำหรับการระดมทุนเพื่อนำเงินไปใช้ขยายสาขา อีกส่วนจะนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินและเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อศักยภาพในการดำเนินงาน

นายพรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ D กล่าวว่า บริษัทมีแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 50 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดภายหลังขาย IPO ซึ่งจะมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 100 ล้านบาท โดยเตรียมเซ็นสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ในวันที่ 20 มี.ค. ซึ่งจะมีการกำหนดราคาเสนอขาย,วันจองซื้อ และวันเข้าจดทะเบียนใน mai ต่อไป

ทั้งนี้ D เป็นผู้ให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยีและวัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีมาตรการรักษาในระดับสากล เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย

บริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้ไปลงทุนขยายสาขา ในทำเลที่มีศักยภาพที่โดดเด่น และมีกำลังซื้อจริง ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทต่อไป

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนรวมไว้ราว 50 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนเทคโนโลยีทันตกรรม จำนวน 15 ล้านบาท และอีกจำนวน 35 ล้านบาท จะใช้ในการขยายสาขา ภายใต้แบรนด์ Dental Signature เป็นหลัก จำนวน 3-5 สาขา โดยมีความสนใจในทำเลย่านทองหล่อ และสาธร ซึ่งการลงทุนแต่ละสาขาจะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ หากขนาดเล็กราว 3-5 ยูนิตทำฟัน จะใช้เงินทุนประมาณ 7-10 ล้านบาท และขนาดใหญ่ราว 5-10 ยูนิตทำฟัน จะใช้เงินลงทุนที่ 10-15 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีสาขาทั้งหมด 12 สาขา แบ่งเป็นศูนย์ทันตกรรมจำนวน 2 สาขา และคลินิกทันตกรรมจำนวน 10 สาขา ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ 10 สาขา และภูเก็ต 2 สาขา

ปัจจุบันบริษัทให้บริการทางทันตกรรม ในรูปแบบศูนย์ทันตกรรมและคลินิกทันตกรรม ภายใต้แบรนด์ BIDC ,Dental Signature และ Smile Signature เป็นต้น มีกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับเกรดเอที่มีรายได้สูง โดยมีสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศและในประเทศ 50:50 อีกทั้งยังมีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขา มีทีมงานที่ได้รับการอบรมให้มีมาตรฐานในการให้บริการเป็นอย่างดี เน้นการให้บริการที่สุภาพเป็นกันเอง และมีเทคโนโลยีและวัสดุอุปกรณ์ที่ปลอดภัยและทันสมัย

ส่วนการให้บริการด้านทันตกรรม กลุ่มบริษัทได้ให้บริการทันตกรรมแบบทั่วไป ทันตกรรมเพื่อความงาม ทันตกรรมรากฟันเทียม ทันตกรรมประดิษฐ์ ทันตกรรมจัดฟัน และยังมีส่วนศัลยกรรมช่องปาก รักษารากฟัน และรักษาโรคเหงือก โดยสาขาที่มีชาวต่างชาติมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก คือ BIDC และสาขาที่ภูเก็ต ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ของชาวต่างชาติของสาขาดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 67% และ 98% ตามลำดับ

นางศิริพร เหล่ารัตนกุล ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ D กล่าวว่า การเดินสายให้ข้อมูลแก่นักลงทุนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี จากนักลงทุนได้ให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่ง เดนทัล คอร์ปอเรชั่น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความน่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มบริษัทมีศูนย์ทันตกรรมที่เป็นรายแรกของประเทศไทย ที่ได้รับมาตรฐานคุณภาพจาก Joint Commission International (JCI) ของสหรัฐฯ ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวเป็นที่ยอมรับระดับโลก และมีเพียง 3 สถานประกอบการเท่านั้นที่ได้รับมาตรฐาน JCI ทำให้ เดนทัล คอร์ปอเรชั่น เป็นที่รู้จักดีในกลุ่มชาวต่างชาติและได้รับความเชื่อมั่นสูง

ด้านผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ของหุ้น D มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 57-59 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 408.26 ล้านบาท ,418.56 ล้านบาท ,446.52 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อย อยู่ที่ 25.59 ล้านบาท ,12.31 ล้านบาท และ 42.52 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้บริษัทยังตั้งเป้าการเติบโตราว 5-10% เป็นไปตามการขยายสาขา และการเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นของลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งสัดส่วนลูกค้าส่วนใหญ่ของลูกค้าชาวต่างชาติจะเป็นชาวออสเตรเลีย 30-40%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ