นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อรถยนต์ที่เป็นสินเชื่อใหม่ในปี 60 อยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท หรือเติบโต 4% จากปีก่อนที่มียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 1.34 แสนล้านบาท โดยเป็นการเติบโตในทิศทางเดียวกับจำนวนยอดขายรถยนต์ใหม่ของอุตสาหกรรมในปี 60 ที่ธนาคารคาดว่าจะเติบโต 4% หรือมีจำนวนยอดขายรถยนต์ใหม่อยู่ที่ 800,000 คัน จากปีก่อน 770,000 คัน ขณะที่ตลาดสินเชื่อรถยนต์ในปี 60 คาดว่าจะเติบโต 3% จากปีก่อน หรือมาอยู่ที่ 5.28 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่ 5.11 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่สูงมากกว่าปีก่อนที่เติบโต 0.4% เพราะแนวโน้มยอดขายรถยนต์ใหม่จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง เป็นผลมาจากการลงทุนของภาครัฐและการบริโภคเอกชน รวมถึงการวางแผนออกรถยนต์รุ่นใหม่เพื่อกระตุ้นตลาดจากผู้ผลิตรถยนต์ ส่วนตลาดรถยนต์มือสองและตลาดรถจักรยานยนต์จะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
ส่วนสินเชื่อคงค้างของสินเชื่อรถยนต์ในปี 60 ธนาคารตั้งเป้าเติบโต 10% จากปีก่อน หรือมาอยู่ที่ 3.07 แสนล้านบาท จากปีก่อน 2.79 แสนล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาด (Market Share) เป็น 25% จากปีก่อน 24% ด้วยการนำกลยุทธ์จากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนในกระบวนการทำงาน เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และตรงกับความต้องการ เพื่อยกระดับการสร้างความผูกพันลูกค้ากับแบรนด์กรุงศรี ออโต้ บนดิจิทัล แพลตฟอร์ม
ภายใต้เป้าหมายการขยายธุรกิจท่ามกลางความท้าทายจากสภาพแวดล้อม กรุงศรี ออโต้ ยังคงยึดมั่นในหลักการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ และการบริหารควมเสี่ยงที่รอบคอบและรัดกุม เพื่อยังคงรักษาคุณภาพสินเชื่อให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งธนาคารมีนโยบายควบคุมระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อรถยนต์ไม่เกิน 2% ต่อปี ซึ่งเป็นแนวโน้มค่าเฉลี่ย NPL ของตลาดรวมที่ระดับ 2% โดยในปีก่อนระดับ NPL ของสินเชื่อรถยนต์อยู่ที่ 1.63% ซึ่งต่ำกว่าระบบที่ 1.8%
ขณะที่แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ในไตรมาส 1/60 ของธนาคารคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย หลังเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ. 60) และจะมีการเติบโตที่ค่อนข้างมากในช่วงเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงการจัดงานมอเตอร์โชว์ที่จะมียอดขายรถยนต์สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เป็นโอกาสของธนาคารในการผลักดันการเติบโตของสินเชื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ธนาคารมองว่าปัจจัยที่ทำให้ยอดขายรถยนต์และสินเชื่อรถยนต์เติบโตได้มาจากแนวโน้มของอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) ที่ธนาคารคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.3% สูงกกว่าปีก่อนเล็กน้อยที่ 3.2% เป็นผลมาจากการลงทุนของภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระตุ้นการบริโภคเอกชนให้ฟื้นตัวขึ้น อีกทั้งการทยอยสิ้นสุดการผ่อนชำระในโครงการรถยนต์คันแรกจะทำให้ความต้องการซื้อรถยนต์อย่างแท้จริงกลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในปี 60 พลิกกลับมาเป็นบวกได้ 4% จากปีก่อนที่ติดลบ 0.4%
โดยแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ในประเทศนั้น ธนาคารมองว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมสินเชื่อรถยนต์จะมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะผู้ประกอบการทุกรายมองเห็นโอกาสในการกลับมารุกตลาดอีกครั้งจากการกลับมาฟื้นตัวเองอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยกลยุทธ์ของธนาคารในปีนี้จะเน้นการขยายฐานลูกค้าไปในระดับภูมิภาคมากขึ้นและการไปร่วมออกงานที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์มากขึ้น โดยเฉพาะการจัดงานในระดับภูมิภาค