นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 60 จะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1.99 หมื่นล้านบาท ซึ่งมาจากการเติบโตทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร
ในส่วนธุรกิจโรงแรม บริษัทตั้งเป้ารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ปี 60 เติบโต 3-4% จากปีก่อนที่โต 3% ซึ่งเป็นผลจากการปรับเพิ่มอัตราค่าห้องพักในปีนี้เฉลี่ย 3-4% ทำให้รายได้ต่อพักพักเพิ่มขึ้นตาม ขณะที่อัตราการเข้าพักในปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มมาอยู่ที่ 81-82% จากปีก่อนที่ 81.9% ซึ่งมองว่าแนวโน้มของจำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
ขณะที่ธุรกิจอาหารในปี 60 ตั้งเป้ายอดขายของสาขาเดิม (SSSG) จะกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง ซึ่งจะมีการเติบโต 1-2% จากปีก่อนที่ติดลบ 0.7% พร้อมกับตั้งเป้าขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 35-40 สาขา และคาดการยอดขายสาขาใหม่เติบโต 4% ซึ่งการขยายสาขาเพิ่มขึ้นจะช่วยสนับสนุนให้ยอดขายของสาขารวม (TSSG) ในปี 60 เติบโต 5-6% จากปีก่อนที่เติบโต 4.3% ทั้งนี้บริษัทยังคงนโยบายในการบริหารจัดการต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาระดับ EBITDA Margin ในปี 60 ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 13%
แม้ว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 คาดว่าจะมีแนวโน้มชะลอตัว เพราะแนวโน้มของนักท่องเที่ยวที่เข้าเที่ยวในไทยช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนลดลง 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลง หลังการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หันไปท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น แต่คาดว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงเดือนมี.ค. ส่วนธุรกิจอาหารนั้นยังได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวอยู่ ทำให้กระทบกับยอดขายของธุรกิจร้านอาหารในช่วงต้นปี แต่คาดว่าจะต่อยๆกลับมาฟื้นตัวขึ้นหลังภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับในปี 60 บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนรวม 3 พันล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนและปรับปรุงโรงแรมราว 1.5 พันล้านบาท โดยจะใช้เป็นสร้างและปรับปรุงโรงแรมในเครือของบริษัททั้งในและต่างประเทศกว่า 500-600 ล้านบาท การปรับปรุงโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ 170 ล้านบาท การลงทุนโรงแรม Cosi สมุยและพัทยา 560 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 1.5 พันล้านบาท จะใช้ลงทุนในธุรกิจอาหาร ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการมองหาซื้อแบรนด์อาหารใหม่ๆเข้ามา เพื่อเสริมศักยภาพการเติบโตและความหลากกลายของธุรกิจอาหาร ซึ่งบริษัทตั้งเป้าซื้อแบรนด์อาหารเฉลี่ยปีละ 1 แบรนด์
ขณะเดียวกันบริษัทมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลแฟรนไชส์ร้าน KFC ของ “ยัม เรสเทอรองตส์" ที่ประกาศขายล็อตสุดท้ายอีก 244 สาขา ซึ่งบริษัทได้มีการเซ็น MOU แสดงความสนใจเข้าร่วมประมูลไว้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะมีการประมูลสาขาเฟรนไชส์ของร้าน KFC ภายในปีนี้
นายรณชิต กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีจำนวนสาขาร้านอาหารในเครือเพิ่มเป็นมากกว่า 1,100 สาขา ภายในปี 64 จากสิ้นปีก่อนมีจำนวนสาขา 830 สาขา และจะมีจำนวนห้องพักของโรงแรมในเครือทั้งหมดมากกว่า 14,000 ห้อง จากสิ้นปีก่อนมีจำนวห้องพักอยู่ที่ 7,566 ห้อง