นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากเงินบาทแข็งค่ามาในเช้านี้ โดยแข็งค่าในรอบเกือบ 6 เดือน และคาดหวังกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า โดยสังเกตุได้จากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้น และยังได้ทำ Long ในตลาดอนุพันธ์ด้วย
นอกจากนี้ จะมีการจัดงาน SET in the City 2017 ในวันที่ 23-26 มี.ค.นี้ รวมถึงในสัปดาห์หน้าก็จะมีการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 1/60
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน ราว 0.2-0.3% พร้อมให้แนวรับ 1,555 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 ถัดไปก็เป็น 1,580-1,585 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,914.62 จุด ลดลง 19.93 จุด (-0.10%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,901.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.24 จุด (0.00%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,378.25 จุด ลดลง 3.13 จุด (-0.13%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.64 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 2.88 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 4.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 7.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.13 จุด
ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 มี.ค.60) 1,560.98 จุด เพิ่มขึ้น 3.93 จุด (+0.25%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,623.52 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 มี.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 มี.ค.60) ปิดที่ 48.78 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 มี.ค.60) ที่ 5.61 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.81 คาดวันนี้แกว่งในกรอบ 34.65-34.85 รอปัจจัยใหม่
- "ผู้รับเหมา" โอดราคายางมะตอยพุ่งปีเดียว 1 เท่าตัว วอน "สมคิด" หาทางแก้ปัญหา ชี้ไม่เฉพาะเอกชนเดือดร้อน ภาครัฐก็ต้องเสียงบฯ เพิ่มชดเชยด้วย คาดปีนี้รัฐต้องควักเพิ่มไม่ต่ำหมื่นล้าน มึนปรับราคาขึ้นลงไม่อิงราคาน้ำมันโลก โวยรวมหัวกันโก่งราคาช่วงความต้องการยางมะตอยสูง แถมปรับขึ้นครั้งละ 4-5 พัน แต่เวลาลดปรับลงแค่พันเดียว
- แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ 2561 ในส่วนของงบประมาณการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษหน่วยงานต่างๆ ได้นำเสนอคำขอเข้ามา แยกเป็นการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษหน่วยงานต่างๆ 17,299 ล้านบาท และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาค ตะวันออก (อีอีซี) มีคำเสนอของบประมาณเข้ามา 11,732 ล้านบาท
- ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ให้เร่งทบทวนทั้งระบบว่าใครเป็นคนริเริ่มกระบวนการให้เอกชนเช่าพื้นที่ ส.ป.ก.ทำกังหันลมทั้ง 20 ราย รวมทั้งพบว่าโครงการดังกล่าวมีกลุ่มการเมืองฉกฉวยโอกาสใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ผูกเข้ากับนโยบายพลังงานทางเลือกมาหาผลประโยชน์ที่อาจมองว่าทันสมัย แต่ สตง.ยืนยันว่าไม่ควรไปใช้พื้นที่ของเกษตรกร เพราะทำให้ประโยชน์ในการทำเกษตรลดลงไป เนื่องจากใช้พื้นที่ติดตั้งเสากังหันลม 1 ไร่/เสา 1 ต้น
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ เพื่อรองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio : LCR) ที่ ธปท.ให้ดำเนินการตั้งแต่เดือน ม.ค. 2559 โดยครบ 1 ปีในเดือน ม.ค. ปีนี้ พบว่าสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบเพิ่มขึ้นถึง 2.7 แสนล้านบาท หรือ 8% จาก 3.4 ล้านล้านบาท เป็น 3.7 ล้านล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- KSL (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 7.80 บาท แนวโน้มราคาน้ำตาลยังคงแข็งแรง จากผลผลิตน้ำตาลของไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอันดับ 2 ของโลกมีแนวโน้มลดลงกว่าปีก่อน และประเด็นการนำเข้าน้ำตาลของอินเดียที่อาจเกิดขึ้น ส่วนทิศทางการส่งออกน้ำตาลที่เติบโตชัดเจน พร้อมรายการพิเศษจากเงินคืนค่ารักษาเสถียรภาพ และ Hedging หนุนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 (ก.พ.-เม.ย.60) สดใส ด้านราคาปัจจุบันคิดเป็น P/E ที่เพียง 17 เท่า เมื่อเทียบกับ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปีที่ 23 เท่า และ P/E เฉลี่ยย้อนหลังช่วงปี 51-54 ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำตาลโลกขาดดุลที่ 28 เท่า
- SUSCO (ธนชาต) "ซื้อ" ปรับประมาณการกำไรขึ้น 8-9.3% ในปี 2560-2562 และปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 5.70 บาท จากค่าการตลาดน้ำมันเบนซินสูง, ยอดเติมน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และการขยายสาขาเชิงรุกเป็น 300+ สาขา ภายในปี 2562 จาก ณ.สิ้นปี 2559 ที่ 220 สาขา คาดการณ์กำไรเติบโตแกร่ง 28-25% ในปี 2560-2561
- BCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 16 บาท ราคาหุ้นที่ปรับลงมาเกือบ 20% จากจุดสูงสุดของปีนี้ตอบสนองในเชิงลบมากเกินไปเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่ยังโตต่อเนื่อง ตลาดอาจผิดหวังที่สำนักงานประกันสังคมยังไม่ปรับเพิ่มค่าหัว แต่การให้สิทธิตรวจร่างกายฟรีตั้งแต่ต้นปี เป็นบวกเพราะรพ.จะมีรายได้ส่วนเพิ่มที่มีอัตรากำไรสูงเข้ามาเสริม โดยไม่ได้รวมประเด็นนี้ในประมาณการกำไรปีนี้ที่คาดโต 15.6% Y-Y ซึ่งมาจาก WMC ที่มีพัฒนาการดีขึ้นมาก PE ปัจจุบันที่ 38 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมาที่ 45 เท่า
- KCE (โกลเบล็ก) เป้า Consensus 113.08 บาท คาดกำไรปี 60 ที่ 3.6 พันล้านบาท +21%YoY จากการขยายกำลังการผลิตและรับรู้รายได้เต็มปีของโรงงานเฟส 1,2 , 3 อีกทั้งประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้นและ Demand ที่แข็งแกร่งของ PCB ในอุตฯยานยนต์ซึงเป็นลูกค้าหลักของบริษัทราว 70% และบริษัทจะเริ่มลงเครื่องจักรเพิ่มเติมเฟส 3 ในปี 2560-2561 (ปี2560 5 แสนตารางฟุต และปี 2561 3 แสนตารางฟุต หนุนการเติบโตระยะยาว