นายจิรศักดิ์ จิยะจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น (WORLD) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. มีมติให้ปรับนโยบายการประกอบธุรกิจ โดยให้บริษัทประกอบธุรกิจประเภทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นแกนหลักในการผลักดันผลประกอบการให้มีการเติบโตขึ้นอย่างเด่นชัด เนื่องจากเล็งเห็นถึงโอกาสและความพร้อมของบริษัทในการทำธุรกิจดังกล่าวจากการที่บริษัทได้เริ่มพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไปแล้วบางส่วนตั้งแต่ปี 58
ปัจจุบัน บริษัทกำลังอยู่ระหว่างศึกษาโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ เพิ่มเติม และวางแผนการดำเนินงานกำหนดนโยบาย ทิศทาง กลยุทธ์ แผนธุรกิจโครงสร้างองค์กร โครงสร้างการบริหาร และหลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ให้สอดคล้องกับนโยบายการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับบริษัทและผู้ถือหุ้น
"คณะผู้บริหารพร้อมที่จะดำเนินการตามที่บอร์ดมอบหมายมา ซึ่งเบื้องต้นได้มีการวางเป้าหมายเอาว่าจะผลักดันให้ผลประกอบการจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรอบบัญชีของปี 60 ขยายตัวแบบดับเบิ้ลจากรอบบัญชีปี 59 โดยประเมินว่าเป็นธุรกิจที่ยังมีศักยภาพในการเติบต่อไปในอนาคตได้อีกมาก
ทั้งนี้มีหลายโครงการที่สนใจ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะทำช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้น และในส่วนของธุรกิจการศึกษาก็ยังคงดำเนินการไปตามปกติ แต่ในอนาคตโครงสร้างของรายได้จะเปลี่ยนแปลงไป โดยจะมาจากส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้ามาแทนที่ธุรกิจการศึกษา และต่อไปจะเป็นธุรกิจหลักของ WORLD"นายจิรศักดิ์ กล่าว
นายจิรศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทีมบริหารสร้างให้ประจักษ์แล้วคือโครงการคอนโดมิเนียมที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าสามารถสร้างรายได้กว่า 370 ล้านบาท และในอนาคตอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนหลายโครงการ คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้
ก่อนหน้านี้ WORLD ได้มีการจัดตั้ง 2 บริษัทใหม่ ประกอบด้วย บริษัท เวิลด์ พร๊อพเพอร์ตี้ แอนด์ แอสเซท เมเนจเม้นท์ เพื่อเข้าลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย โดยมีสัดส่วนในการถือหุ้น 99.99% และบริษัท เวิลด์บิวด์ คอนสตรัคชั่น เพื่อประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง สัดส่วนการถือหุ้น 99.99% และถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ในบริษัท ภูเก็ตฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการ ดิเอ็มเมอร์รัล เทอร์เรช คอนโด ป่าตอง คอนโดมิเนียมหรู ในจ.ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 720 ล้านบาท และกำลังจะเปิดตัวโครงการนอร์ทสาทร เรสซิเด้นท์ มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานประจำปี 58/59 (มิ.ย.58- พ.ค.59) บริษัทฯมีรายได้รวม 1,226.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 758.64 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 467.37 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วน 61.61% เนื่องจากมีรายได้จากการขายจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โดยในงวดปีนี้รับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์เป็นจำนวน 370.42 ล้านบาท ทำให้มีสัดส่วนรายได้เท่ากับ 30.21% ของรายได้รวม