นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 21-27 มี.ค.60 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้เอเชีย (K-AFIXED) ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย เกาหลี จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ การ์ตาร์ ฯลฯ
กองทุนดังกล่าวเป็นการบริหารจัดการร่วมกันระหว่าง บลจ.กสิกรไทย และ อีสท์สปริง อินเวสเมนทส์ (Eastspring Investments) โดยกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนระหว่างการลงทุนในประเทศและต่างประเทศได้ตั้งแต่ 0-100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนมีการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี
จุดเด่นของกองทุน K-AFIXED คือการเน้นคัดเลือกตราสารหนี้คุณภาพดีซึ่งส่วนใหญ่มีระดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดี ทั้งตราสารหนี้ของภาครัฐ เอกชน และสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในเอเชีย และกองทุนจะใช้กลยุทธ์การบริหารเชิงรุกเพื่อมุ่งหวังให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีชี้วัด โดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3-4% ต่อปี ทั้งนี้ผลตอบแทนที่ได้มาจาก 3 ส่วนหลัก ได้แก่ รายรับจากดอกเบี้ย (Interest Income) การเพิ่มขึ้นของราคาตราสารหนี้ (Price Appreciation) และกำไรจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Gain)
นอกจากนี้ กองทุนได้รับการบริหารจัดการโดยมืออาชีพ โดย บลจ.กสิกรไทย ร่วมบริหารการลงทุนกับอีสท์สปริง อินเวสเมนทส์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในตราสารหนี้เอเชียมายาวนานกว่า 20 ปี และเป็นหนึ่งในเครือบริษัทพรูเด็นเชียล (Prudential) ปัจจุบันมีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการกว่า 1.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำหรับทีมงานของอีสท์สปริง อินเวสเมนทส์ จะมุ่งบริหารพอร์ตการลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศซึ่งจะลงทุนโดยตรงผ่านหลากหลายสกุลเงินตราในเอเชีย โดยตราสารส่วนใหญ่จะมีอันดับเครดิตเฉลี่ยอยู่ในระดับที่น่าลงทุน (Investment Grade) และมั่นใจได้ในคุณภาพการบริหารซึ่งการันตีด้วยรางวัลผู้จัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทตราสารหนี้เอเชีย-แปซิฟิก จาก Citywire Asia Awards 2016 ขณะที่บลจ.กสิกรไทยจะมุ่งบริหารพอร์ตการลงทุนในส่วนตราสารหนี้ไทย โดยการันตีคุณภาพการบริหารด้วยรางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทตราสารหนี้ภายในประเทศ จาก Morningstar Thailand Fund Awards 2017
“กองทุน K-AFIXED เป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจโดยเฉพาะกับผู้ลงทุนที่ยังมีความกังวลจากการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างเช่น หุ้น เนื่องจากมีระดับความเสี่ยงที่ต่ำกว่า แต่ก็ยังสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจด้วย เพราะการเปิดขอบเขตการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วเอเชียจะช่วยเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนกับตราสารหนี้ภายในประเทศเพียงอย่างเดียว"นายวศิน กล่าว
นายวศิน กล่าวว่า จากข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ม.ค.59-31 ม.ค.60 ตราสารหนี้เอเชียให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3.7% ต่อปี (คุณภาพตราสารเฉลี่ยระดับ A+, คำนวณจากดัชนี Market iBoxx Asian Local Bond) ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้เอกชนไทยที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 2.7% ต่อปี (คุณภาพตราสารเฉลี่ยระดับ BBB ขึ้นไป, คำนวณจากดัชนี Thai BMA Corporate bond) นอกจากนี้ด้วยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของเอเชียที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มการเติบโตในระดับสูง จะส่งผลดีในแง่ความต้องการลงทุนในตราสารหนี้เอเชียที่เพิ่มขึ้น และทำให้ผลตอบแทนมีความน่าสนใจมากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ในภูมิภาคอื่น
ด้าน Boon Peng Ooi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุนด้านตราสารหนี้ อีสท์สปริง อินเวสเมนทส์ กล่าวว่า นักลงทุนจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการลงทุนในตราสารหนี้ของเอเชีย เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจทั้งในส่วนดอกเบี้ยที่กองทุนจะได้รับอย่างสม่ำเสมอ และยังเพิ่มโอกาสทำกำไรจากส่วนต่างของราคาซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของราคาตราสารหนี้ในเอเชีย
Mark Yuen หัวหน้าฝ่ายบริหารงานลูกค้าและการขายนักลงทุนสถาบันของอีสท์สปริง อินเวสเมนทส์ กล่าวว่า กองทุน K-AFIXED จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยที่กำลังมองหาผลตอบแทนที่น่าสนใจและมีความมั่นคงจากกองทุนตราสารหนี้เอเชีย ซึ่งบริหารงานโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์สูงและประสบความสำเร็จในการบริหารกองทุน