โบรกฯเชียร์"ซื้อ"KSL มอง Q2 งวดปี 59/60 โตโดดเด่นรับผลบวกน้ำตาล-เอทานอลแกร่ง,บันทึกกำไรพิเศษ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 20, 2017 15:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) หลังมองผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 59/60 (ก.พ.-เม.ย.60) มีแนวโน้มเติบโตมาก โดยเฉพาะกำไรหลักที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รับผลบวกจากราคาน้ำตาลอยู่ในระดับสูง และการส่งออกน้ำตาลฟื้นตัว รวมถึงธุรกิจเอทานอลที่ขยายตัวได้ดี นอกจากนี้ยังจะบันทึกรายการพิเศษเพิ่มเติมจากเงินเรียกคืนจากค่ารักษาเสถียรภาพ หลังจากที่ได้บันทึกบางส่วนไปแล้วในไตรมาสแรก

ทั้งนี้ คาดว่าราคาน้ำตาลน่าจะได้แรงหนุนจากความคาดหมายว่าอุปทานน้ำตาลจะต่ำกว่าอุปสงค์ตลอดฤดูกาลปี 59/60 และสัดส่วน stock to use ซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี รวมถึงจะได้รับอานิสงส์จากการที่หุ้นบมจ.มัดแมน (MM) จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดย KSL ถือหุ้นในสัดส่วน 9.3%

ราคาหุ้น KSL พักเที่ยงอยู่ที่ 5.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+4.50%) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย 0.33%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ               ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บัวหลวง                       ซื้อ                        7.75
          เคจีไอ (ประเทศไทย)            ซื้อ                        6.60
          ทรีนีตี้                         ซื้อ                        7.80
          เคทีบี (ประเทศไทย)             ซื้อ                        7.00
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)             ซื้อ                        6.35
          ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)          ซื้อ                        7.30

นายประสิทธิ์ สุจิรวรกุล ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวิจัย บล.บัวหลวง คาดว่าผลการดำเนินงานของ KSL ในงวดไตรมาส 2 ของปี 59/60 ในส่วนของกำไรหลักมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 144% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 16% จากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 380 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจน้ำตาลที่ราคาส่งออกล็อกล่วงหน้าไว้ในระดับสูง และปริมาณส่งออกที่กลับมาฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน และธุรกิจเอทานอลที่มีปริมาณยอดขายและราคาขายเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ KSL จะบันทึกเงินที่ขอเรียกคืนจากคณะกรรมการและกองทุนอ้อยและน้ำตาลอีกก้อนหนึ่งในไตรมาส 2 ด้วย หลังจากที่ได้มีการบันทึกบางส่วนจำนวน 124 ล้านบาทในไตรมาสแรกไปแล้ว ซึ้งเป็นผลจากการชนะคดีฟ้องร้องระหว่างกัน

"เรายังคงคำแนะนำ"ซื้อ"ที่ราคาเป้าหมาย 7.75 บาท จากผลประกอบการปีนี้มีแนวโน้มเติบโตมาก ๆ เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะ KSL ทำสัญญาขายล่วงหน้าไปแล้ว 70-80% ของปริมาณการผลิต และถือว่ามีราคาที่ค่อนข้างดี และเชื่อว่าปีนี้ราคาจะยังอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณน้ำตาลในตลาดโลกยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ความต้องการยังอยู่ในระดับสูง"นายประสิทธิ์ กล่าว

ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยได้ปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับ KSL เป็น"ซื้อ"จากเดิม"ถือ"ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 6.60 บาท โดยอิงจาก PER ปี 60 ที่ 17.3 เท่า โดยคาดว่าผลการดำเนินงานของ KSL จะออกมาดีเยี่ยมทุกไตรมาสในปี 59/60 จากราคาน้ำตาลจะยังแข็งแกร่งในระยะกลาง

ในปีนี้คาดว่าราคาน้ำตาลน่าจะได้แรงหนุนจากความคาดหมายว่าอุปทานน้ำตาลจะต่ำกว่าอุปสงค์ตลอดฤดูกาลปี 59/60 และสัดส่วน stock to use อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าในระยะสั้น ราคาน้ำตาลอาจจะถูกกดดันจากสถานะ long ที่พอกพูนขึ้นมาจนอยู่ในระดับสูงในตลาดซื้อขายล่วงหน้า

ทั้งนี้ ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิของ KSL ในงวดปี 59/60 (พ.ย.59-ต.ค.60) ขึ้นอีก 12.6% เป็น 1.7 พันล้านบาท หลังจากที่รวมการบันทึกกำไรพิเศษในปีนี้ที่ระดับ 196 ล้านบาท โดยได้บันทึกไปบ้างแล้วในงวดไตรมาสแรก

ขณะที่บล.ทรีนีตี้ คงคำแนะนำ"ซื้อ"หุ้น KSL แม้จะประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ปี 59/60 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2.89 พันล้านบาท ลดลง 38% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าภาพรวมธุรกิจยังคงสดใสเนื่องจากธุรกิจน้ำตาลจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ของการส่งออกในช่วงไตรมาส 2 และ 3

ปริมาณอ้อยเข้าหีบที่อาจน้อยกว่าคาดมีโอกาสส่งผลให้ราคาน้ำตาลโลกมีทิศทางแข็งค่าขึ้นชัดเจน ประกอบกับหากอินเดียซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกน้ำตาลของโลกมีปริมาณอ้อยเข้าหีบน้อยกว่าคาดมาอยู่ที่เพียงราว 20 ล้านตัน แต่มีความต้องการบริโภคภายในประเทศสูงถึง 26 ล้านตัน อาจส่งผลให้ผลผลิตน้ำตาลในประเทศขาดดุลจนต้องมีการนำเข้าน้ำตาล จะเป็นอีกปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนราคาน้ำตาลโลก

ขณะที่ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากบราซิล มีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่ผลผลิตอ้อยในปี 59/60 นี้จะต่ำกว่าคาดมาอยู่ที่เพียง 90-91 ล้านตัน ต่ำกว่าผลผลิตอ้อยในปี 58/59 ที่ 94 ล้านตัน หรือลดลงราว 3-4% ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาภัยแล้งต่อเนื่อง และชาวไร่อ้อยบางส่วนได้นำผลผลิตอ้อยไปเป็นกล้าพันธุ์สำหรับฤดูกาล 60/61 มากขึ้น โดย ณ ปัจจุบันโรงงานน้ำตาลในประเทศไทยประมาณ 4 โรงได้ทยอยปิดการหีบอ้อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจัยดังกล่าวเหล่านี้คาดจะช่วยหนุนให้ราคาน้ำตาลยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจไฟฟ้าแม้จะได้รับผลกระทบจากการที่อ้อยเข้าหีบช้าล่าช้าไปบ้าง แต่เนื่องจากในงวดปี 59/60 นี้ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงนอกแผน และธุรกิจเอทานอล ซึ่งคาดราคาขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ราว 25 บาทต่อลิตร ถือว่าราคาปรับตัวดีขึ้น จะส่งผลให้แนวโน้มรายได้เติบโตต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คาดว่าผลการดำเนินในงวดไตรมาส 2 ของ KSL มีทิศทางเติบโตอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และงวดปีก่อน จากปริมาณการส่งออกน้ำตาลที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงสุดของปี หลังการส่งออกน้ำตาลในไตรมาส 1 ชะลอตัวลงจากการรับมอบน้ำตาลที่ล่าช้ากว่าปกติของผู้ซื้อในต่างประเทศ ,รับรู้รายได้จากการขายน้ำตาลในประเทศลาว , การเติบโตของปริมาณการขายไฟฟ้า หลังในช่วงไตรมาส 1 ถูกกดดันจาการเปิดหีบอ้อยที่ล่าช้า

ขณะที่คาดว่าราคาขายเอทานอลยังคงอยู่ในระดับที่ดีราว 25 บาท/ลิตร ,มีรายได้จากการได้รับเงินคืนค่ารักษาเสถียรภาพอีกกว่า 60 ล้านบาท , มีกำไรจากการทำประกันความเสี่ยงน้ำตาล และอานิสงส์การนำหุ้นบมจ.มัดแมน (MM) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่ง KSL ถือหุ้นในสัดส่วน 9.3% แต่สำหรับ บมจ.เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น (KSLGI) ซึ่งเดิมคือบริษัท ขอนแก่นแอลกอฮอล์ จำกัด ยังคงอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ จึงยังไม่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ