นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมแต่งตั้งบริษัท เพลินจิต แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทมืออาชีพเข้ามาบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหนี้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เจ้าหนี้เกิดความเชื่อมั่น
พร้อมกันนั้น ยังเตรียมเสนอให้นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ หนึ่งในกรรมการของ IFEC ที่เป็นอดีตนายธนาคารและเป็นผู้เชี่ยวชาญในบริหารหนี้ของ 56 ไฟแนนซ์ช่วงวิกฤติสถาบันการเงินปี 40 เข้ามาร่วมในการบริหารหนี้ในฐานะประธานคณะทำงานบริหารหนี้ และเตรียมเชิญเจ้าหนี้มาปรึกษาหารือในเร็วๆ นี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดแผนบริหารจัดการหนี้ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“ผมไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขปัญหา IFEC ผมมั่นใจว่า IFEC เป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน ดังนั้นถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี ผมเชื่อมั่นว่า IFEC สามารถก้าวข้ามปัญหา และผ่านพ้นเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้"นายวิชัย กล่าว
นายวิชัย มั่นใจว่า แผนดำเนินธุรกิจของ IFEC ยังสามารถเดินหน้าและจะทำได้ตามเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ให้บริษัท โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานที่สามารถต่อยอดไปได้อีกมาก โดยเฉพาะโครงการโซลาร์ฟาร์สหกรณ์ ที่บริษัทสามารถเข้าร่วมประมูลได้ และคก็มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูล รวมถึงโครงการพลังงานทดแทนประเภทอื่น ๆ
นอกจากนี้ IFEC ยังให้ความสนใจโครงการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ หรือสมาร์ทกริด (Smart Grid) และยังเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจ การจัดระบบแบบสมาร์ทซิตี้ (Smart City) ซึ่งในส่วนธุรกิจนี้ ประกอบด้วย การระบบจัดการไฟฟ้า ระบบประปา และระบบสื่อสาร โดยเป็นการวางกรอบธุรกิจเพื่อขยายสู่ตลาด CLMV หรือเศรษฐกิจในลุ่มแม่น้ำโขง
ส่วนธุรกิจรับงานก่อสร้างในนามของบริษัท ไอคอน วิชัย ก็เร่งเดินหน้าเจรจากับพันธมิตรในการรับงาน เพื่อรุกหารายได้ให้ IFEC อีกทางหนึ่ง ไม่ใช่แค่เพียงการเร่งหารายได้เพื่อนำไปชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้เท่านั้น
ขณะที่ธุรกิจโรงแรมดาราเทวี หากมีการบริหารจัดการที่ดีก็ยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่ IFEC อีกทางหนึ่งเช่นกัน แต่ก็ยอมรับว่าการเข้าลงทุนในโรงแรมดังกล่าวใช้เงินลงทุนราว 4,000 ล้านบาท และมีภาระดอกเบี้ยราว 175 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA ก็ยังติดลบอยู่ ดังนั้นจึงมีแผนที่จะทยอยแบ่งขายบางส่วนที่บริษัทไม่มีความถนัดในการทำธุรกิจเพื่อนำมาชำระหนี้
“ผมตั้งเป้าในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมุ่งเน้นบทบาทการเป็นผู้นำองค์กร นำพาธุรกิจไปสู่การเจริญเติบโต ด้วยการสร้างคุณค่ากิจการอย่างยั่งยืน โดยสะท้อนจากแผนธุรกิจของ IFEC ในปี 60 ยังคงเดินหน้าในการมุ่งเน้นสร้างรายได้ในธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจพลังงาน ประกอบด้วย พลังงานโซลาร์ฟาร์ม พลังงานลม และพลังงานขยะ ซึ่งธุรกิจทั้ง 3 ส่วนนี้ ไอเฟค มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง"นายวิชัย กล่าว
ขณะเดียวกัน นายวิชัย ยังคงเน้นย้ำในหลักการเดิม คือ พร้อมจะให้ผู้ถือหุ้นใหม่ คือ นายทวิช เตชะนาวากุล เข้ามาร่วมแก้ไขปัญหา ซึ่งเชื่อมั่นว่ามีจุดยืนและเป้าหมายเดียวกัน คือ การเร่งสร้างรายได้ และการเร่งแก้ไข หรือสางหนี้ให้ IFEC เพื่อเร่งการปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย (SP) หลักทรัพย์ของ IFEC เพื่อผลประโยชน์ IFEC และผู้ถือหุ้น
"ดังนั้นผมต้องการให้คุณทวิช และกรรมการกลุ่มทวิช เข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาหนี้ร่วมกัน เพื่อหาทางออกร่วมกัน ถ้าหากมุมมองผม คุณทวิชไม่เห็นด้วย ก็ให้มาเสนอทางออกร่วมกัน...ผมไม่เคยคิดปิดกั้น พร้อมตอบโจทย์ CG Code หลักปฏิบัติสำหรับคณะกรรมการบริษัท โดยมุ่งหวังให้กิจการมีผลประกอบการที่ดี โดยคำนึงถึงความต่อเนื่องในระยะยาว"นายวิชัย กล่าว