(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตลาดตปท. เหตุวิตกนโยบาย"ทรัมป์"อาจไม่เป็นไปตามคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 22, 2017 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้าตามดัชนีดาวโจนส์ที่เมื่อคืนที่ผ่านมาปิดร่วงไปกว่า 200 จุด เป็นผลจากวิตกว่าแผนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะไม่เป็นไปตามที่คาด โดยให้จับตาเรื่องแผนดูแลสุขภาพ (Health care) ซึ่งนักลงทุนกังวลว่านโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ และจะมีส่วนผลักดันให้หุ้นขึ้นได้ทั้งหมดนั้น จะเป็นไปตามที่คาดหรือไม่

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันตลาดโลกปิดเมื่อคืนนี้ก็ปรับตัวลงด้วย ส่วนปัจจัยในประเทศก็ไม่ได้มีอะไร พร้อมให้แนวรับ 1,550-1,557 จุด ส่วนแนวต้าน 1,571 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,668.01 จุด ร่วงลง 237.85 จุด (-1.14%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,793.83 จุด ลดลง 107.70 จุด (-1.82%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,344.02 จุด ลดลง 29.45 จุด (-1.24%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 309.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 15.39 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 256.79 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 60.53 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 18.41 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 30.31 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 6.92 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 22.85 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 มี.ค.60) 1,568.78 จุด เพิ่มขึ้น 5.24 จุด (+0.34%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,584.10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 มี.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 มี.ค.60) ปิดที่ 47.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 88 เซนต์ หรือ 1.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 มี.ค.60) ที่ 5.71 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.77 แนวโน้มอ่อนค่าตามทิศทางภูมิภาค นักลงทุนกังวลนโยบายเศรษฐกิจ"ทรัมป์"
  • ครม.ไฟเขียวแก้ร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กฤษฎีกาปรับแก้อัตราภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่า เริ่มเก็บที่ 2% เพิ่ม 0.5% ทุก 3 ปี มีเพดานสูงสุด 5% ชี้รัฐ-เอกชน พบกันครึ่งทาง เปิดโอกาสครอบครองที่ดินพัฒนาเชิงพาณิชย์ ให้อำนาจ รมว.คลังออกพ.ร.ฎ.บรรเทาภาษีได้สูงสุด 90% นายกฯเร่งกฎหมาย หวังแก้เหลื่อมล้ำ คาดเริ่มเก็บภาษีปี 2562
  • กกพ.ยอมรับค่าไฟงวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค.60) ขึ้นแน่ แม้มีหลายปัจจัยทำให้ต้นทุนลดทั้งค่าบาทแข็ง ใช้ไฟเพิ่ม แต่ต้นทุนหลักก๊าซฯขึ้น ส่วนพลังงานทดแทนทั้งปีดันค่าไฟขยับมากกว่า 21 สต./หน่วยหลังเข้าระบบเพิ่ม"สนพ."จับมือทุกส่วนรับมือ 9 วันอันตราย ก๊าซฯเมียนมาหยุดจ่าย 25 มีนาคม-2 เมษายน 2560 แนะประชาชนลดใช้ไฟ
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 13-17 เม.ย.นี้ คาดว่านักท่องเที่ยวคนไทยจะเดินทางประมาณ 2.47 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 9.6% สร้างรายได้ 8,540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 7,920 ล้านบาท ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาไทย 4.7 แสนคน เพิ่มขึ้น 10% สร้างรายได้ 8,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับปีที่ผ่านมา มีรายได้ 6,900 ล้านบาท โดยรวม 5 วัน การท่องเที่ยวมีเงินรายได้สะพัด 1.65 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ครม.ไฟเขียวสร้างนิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว วงเงิน 1,660 ล้านบาท ระยะเวลาเช่า 50 ปี คาดนักลงทุนเช่าหมดภายใน 5 ปี พาณิชย์เดินหน้า "แม่สอดโมเดล" จัดงานมหกรรมการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ผลักดันการค้า-ลงทุนเพิ่ม

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ROBINS (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 76 บาท การขยายสาขาเป็น 56 สาขาภายในปี 2563 จากสิ้นปี 2559 ที่ 44สาขา, เพิ่มสินค้ามาร์จิ้นสูง และสัดส่วนยอดขาย house + international brand ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยังมีมุมมองบวกต่อการเติบโตกำไร 18-20% ปี 2560-2561 โดย PE60 23.9x ต่ำกว่ากลุ่ม
  • TPCH (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 23.40 บาท ปี 60 คาดกำไรโตขึ้นสู่ระดับ 363 ล้านบาท +80%YoY เนื่องจากรับรู้โรงไฟฟ้า MGP และ TSG เต็มปี นอกจากนี้คาดว่าจะมีโรงไฟฟ้าอีก 2 แห่ง (PGP SGP กำลังการผลิตรวม 20 MW) ที่จะ COD ในไตรมาส 2/60 และไตรมาส 3/60 ตามลำดับเข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม ทั้งนี้ สามารถเติบโตจากโครงการโรงไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้าง โดยคาดว่าจะ COD โรงไฟฟ้าเพิ่มในปี 61 อีก 4 แห่งกำลังการผลิตรวม 48 MW และในปี 62 คาดว่าจะ COD เพิ่มอีก 2 แห่งกำลังการผลิตรวม 33 MW อีกทั้งมีศักยภาพการในการเติบโตจากการเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้า SPP HYBRID FIRM และ VSPP+SEMI FIRM รวม 589 MW บริษัทตั้งเป้าหมายชนะการประมูลราว 50 MW เข้ามาหนุนผลประกอบการในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ