ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับลดลง หลังกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการบังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงเมื่อคืนที่ผ่านมา ฉุดให้มีแรงขายนำออกมาในหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มพลังงาน และแบงก์ กดดันต่อภาพรวมการลงทุน
เมื่อเวลา 10.03 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,558.68 จุด ลดลง 10.10 จุด (-0.64%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.11 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,562.43 จุด ลดลง 6.35 จุด (-0.40%)
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า ตามตลาดสหรัฐฯที่เมื่อคืนที่ผ่านมาร่วงกว่า 200 จุด อีกทั้งราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงด้วย
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยคงจะเป็นการพักฐานระยะสั้น เพราะมีโอกาสที่จะดีดตัวกลับขึ้นไปได้เมื่อดัชนีฯมาอยู่แถว 1,560 จุดในระหว่างการเทรด เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯยังอ่อนค่าอยู่ โดยมองหุ้นในกลุ่มแบงก์น่าสนใจ และหุ้น CPF น่าสนใจเพราะได้ประโยชน์จากเหตุการณ์เนื้อปนเปื้อนในบราซิล ทำให้จีน (ลูกค้ารายใหญ่สุดของบราซิล) และฮ่องกงประกาศระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์แช่แข็ง (วัวและไก่) จากบราซิล
พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด