นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (23 มี.ค. ) ว่า ปัจจัยต่างประเทศที่ยังเป็นตัวชี้นำตลาดจะทำให้ดัชนีฯ มีแนวโน้มที่จะผันผวนในกรอบแคบและมีโอกาสปรับตัวลดลงจากวันก่อน ในกลยุทธ์การลงทุนเรายังแนะนำให้ “ถือ" เนื่องจากมองทิศทางตลาดว่าจะเป็น sideway up คือค่อยๆ ปรับขึ้น เพียงแต่มีปัจจัยภายนอกมาคอยถ่วง ทำให้แรงซื้อจะเบาบางลง
วันนี้ ตลาดอาจหันมาเล่นหุ้นที่เป็น Domestic Play หุ้นในกลุ่ม Defensive และหุ้นที่ได้ประโชน์จากการที่ราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ เป็นต้น หุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ SCB , ADVANC , AAV ,GFPT , SAMART , CHG , DIF
นายวิน ระบุว่า ตลาดรอคอยปัจจัยสำคัญ คือ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเตรียมลงมติร่างกฎหมาย"อเมริกันเฮลธ์แคร์"แทน"โอบามาแคร์"ที่กังวลว่าจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นจากการปฎิรูปกฎหมายฉบับนี้ และคืนนี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาที่วอชิงตัน
แต่ด้วยความไม่แน่นอนของตลาดจากปัจจัยเสี่ยงหลายตัว อาทิ นโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ กระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังไม่เป็นรูปธรรม การเลือตั้งในยุโรปและ BRExit ยังส่งผลให้นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ อาทิ พันธบัตรรัฐบาล ทองคำ และค่าเงินสกุลที่ปลอดภัย เช่น เงินเยน ขณะที่การอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์ สะท้อนถึงภาพลบของตลาด ค่า Dollar Index รับตัวลงมาต่ำกว่า 100 จุด เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ 7 ก.พ.60 เป็นต้นมา และนี่เป็นผลให้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ชะลอตัวลง
สำหรับเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษในคืนที่ผ่านมา คาดไม่มีผลต่อตลาดในวันนี้ เนื่องจากความสูญเสียไม่ถึงขั้นรุนแรง
ทั้งนี้ ปัจจัยในประเทศ ตัวเลขส่งออก เดือน ก.พ.ที่ลดลง 2.6% YoY และไม่รวมน้ำมันลดลง 4.0% ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน ก.พ. สูงขึ้น 19% YoY และส่งออกรถยนต์ลดลง 6% จะทำให้หุ้นในภาคส่งออกยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ด้วยเม็ดเงินที่ยังมีการไหลเข้ามาในตลาดไทย ส่วนหนึ่งมาจาก Reflation Trade ทำให้ตลาดหุ้นไทยจะไม่ร่วงลงไปแรงด้วยแรงขายของนักลงทุนในช่วงนี้